มาริษ เสงี่ยมพงษ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เผยผ่านสื่อโซเชียลมีเดียวันนี้ (17 ตุลาคม 2568) ว่า

1st India ASEAN Strategic Dialogue

ขอบคุณ Dr. Ram Madhav ประธาน India Foundation และสถาบัน ISIS มาเลเซีย ที่ได้เชิญผมไปร่วมวงเสวนา The 1st India-ASEAN Strategic Dialogue ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียเมื่อวานนี้ 16 ตุลาคม 2568 ครับ

วัตถุประสงค์ของการเสวนาฯ คือหาแนวทางที่อินเดีย และอาเซียนจะเพิ่มบทบาท และทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสันติภาพ และการพัฒนาอย่างยั่งยืนของภูมิภาค และสังคมโลก ผมได้ย้ำความสำคัญของอินเดียที่มีบทบาทนำในกรอบความร่วมมือ BIMSTEC และประเทศไทยที่มีบทบาทสำคัญในอาเซียน ดังนั้น ความร่วมมือทวิภาคีของไทยกับอินเดียจึงช่วยยกระดับความร่วมมือระหว่างอาเซียน และ BIMSTEC ในทุกๆ มิติให้แนบแน่นมากยิ่งขึ้น

ความสำคัญของเวทีเสวนาฯ ครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มที่สำคัญในการเป็นสะพานเชื่อมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับเอเชียใต้เข้าด้วยกัน เพื่อเสริมสร้างสันติภาพ และความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย และของโลก ในหลากหลายมิติ ด้วยการสร้างวิสัยทัศน์ร่วมกันในด้านต่างๆ ดังนี้

(1) สร้างสันติภาพ ผ่านการเจรจา ปรึกษาหารือสร้างความเชื่อมั่น และยึดหลักกฏหมายระหว่างประเทศ ใช้กลไกที่มีอยู่ของอาเซียน เช่น AOIP และของอินเดีย เช่น IPOI แก้ไขปัญหา ส่งเสริมความมั่นคง และอิสรภาพในการคมนาคมทางทะเล กระชับการพึ่งพาระหว่างกันในด้านเศรษฐกิจ และ supply chain ยึดโยง 2 ภูมิภาคด้วยพลังของ soft power ทางวัฒนธรรม และร่วมกันถ่วงดุลอำนาจของประเทศต่างๆ ในภูมิภาค

(2) แบ่งปันความเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ ผ่านการเชื่อมโยงในทุกมิติ รวมทั้งการพัฒนานวัตกรรมร่วม ด้วยนโยบาย Act East ของอินเดีย และ Look West ของอาเซียน

(3) สร้างความเป็นหุ้นส่วนระหว่างประชาชนโดยส่งเสริมการไปมาหาสู่ระหว่างกัน ร่วมมือด้านการศึกษา แลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และการปกป้องโลก รักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อให้อินเดีย และอาเซียนเป็นภูมิภาคสีเขียวอย่างสมบูรณ์

เป็นที่น่าดีใจที่ผู้เข้าร่วมการเสวนาหลายคน เช่น นาย YB Liew Chin Tong รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการลงทุน การค้า และอุตสาหกรรมของมาเลเซีย นาย Shri MJ Akbar อดีตรัฐมนตรีแห่งรัฐด้านการต่างประเทศของอินเดีย นาย Thomas Daniel ผู้อำนวยการ ISIS มาเลเซีย และ นส. Joanne Lin นักวิจัยอาวุโส ศูนย์ศึกษาอาเซียนของสถาบัน ISEAS-Yusof Ishak สิงคโปร์ ต่างชื่นชม และตระหนักในบทบาทของผม ช่วงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ผลักดันนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแพทองธารฯ ขับเคลื่อนบทบาทของประเทศไทยให้เป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่างเอเชียใต้ในกรอบของ BIMSTEC กับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในกรอบของ ASEAN มาโดยตลอด และการเสวนาฯ ในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากแนวคิดของการเชื่อมโยง ดังกล่าวนั่นเอง