'ฮัสซัน ดิอาบ' นายกรัฐมนตรีเลบานอนประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อ 11 ส.ค. ขณะที่รัฐมนตรีในคณะรัฐบาลของเขา 3 คนประกาศลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน หลังจากที่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาประชาชนในกรุงเบรุตต่างลุกฮือชุมนุมประท้วงไม่พอใจรัฐบาลในเหตุการณ์โกดังเก็บสารแอมโมเนียมไนเตรดระเบิด ซึ่งปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 200 รายและบาดเจ็บอีกกว่า 6,000 ราย
นายกรัฐมนตรีเลบานอน กล่าวว่า รัฐบาลของเขาได้ใช้ความพยายามอย่างหนักในการกอบกู้ประเทศ แต่ทั้งนี้การคอร์รัปชันในเลบานอนนั้นใหญ่เกินกว่ากำลังของรัฐและเป็นกำแพงที่ถูกสร้างขึ้นจากชนชั้นปกครองที่อยู่มายาวนานใช้วิธีการสกปรกในการปกป้องผลประโยชน์ของตนจนยากที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
'ฮัสซัน ดิอาบ' ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือน ม.ค. ปี 2563 หลังจากที่ตำแหน่งดังกล่าวถูกเว้นว่างมานานหลายเดือน นับตั้งแต่ 'ซาอัด อัล-ฮาริรี' ลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนต.ค. 2562 โดยคณะรัฐบาลของฮัสซัน ดิอาบ ถูกวางตัวเพื่อให้เข้ามาแก้ปัญหาการเมืองและการคอร์รัปชันในเลบานอน และให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตามการลาออกของฮัสซัน ดิอาบจะส่งผลให้กระบวนการปฏิรูปประเทศที่ผ่านมารวมถึงการเลือกตั้งรัฐบาลชุดใหม่ของเลบานอนจำเป็นต้องหยุดชะงักลงเป็นการชั่วคราว
เหตุการณ์โกดังเก็บสารแอมโมเนียมไนเตรดที่ระเบิดเมื่อวันที่ 4 ส.ค. เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่อ่อนไหวทางการเมืองและเศรษฐกิจ รวมถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่หนักหนาในเลบานอน ขณะเดียวกันมีการประเมินว่าการระเบิดในครั้งนี้มูลค่าความเสียหายมากถถึง 10,000 -15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และประชาชนอีกเกือบ 300,000 ราย ต้องไร้ที่อยู่อาศัย
นายกรัฐมนตรีเลบานอนกล่าวว่า จะต้องมีการสอบสวนและหาตัวผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีเลบานอนมีคำสั่งกักบริเวณเจ้าหน้าที่ท่าเรือที่เกี่ยวข้องกับการเก็บหรือตรวจตราดูแลสารแอมโมเนียมไนเตรทเหล่านี้ในบ้านพักระหว่างการสอบสวน รวมถึงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อให้อำนาจเต็มกับกองทัพในการดูแลสถานการณ์ในกรุงเบรุต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง