เมื่อวันที่ 3 พ.ย. สังคมออนไลน์ให้ความสนใจภาพสกปรก น่ารังเกียจและความเสียหายของห้องพักภายในคอนโดมิเนียม Grene Suthisarn (กรีเน่ สุทธิสาร) ซึ่งถูกเผยแพร่โดยสมาชิกเฟซบุ๊กชื่อ Kulisara Udorn
“ถามหน่อยเจอผู้เช่าแบบนี้ให้ทำไง มีใครให้ …มากกว่านี้มะ? ค่าไฟไม่จ่ายอีก 4,000 กว่า หนีออกไปไร้ซึ่งความรับผิดชอบ!!!!" เจ้าของห้องดังกล่าวเธอระบุ
วอยซ์ออนไลน์ติดต่อพูดคุยกับเธอ ก่อนจะพบว่าเธอชื่อ กุลิสรา อุดร
เธอเล่าด้วยความเซ็งว่า ใช้บริการเอเยนต์ช่วยค้นหาผู้เช่า ได้ผู้เช่าเป็นชายชาวอเมริกันและแฟนสาวคนไทย ครั้งแรกที่พบกันอีกฝ่ายมีท่าทีปกติ ไม่มีพิษภัยและไม่คิดว่าจะสร้างปัญหาแสนเจ็บปวดในเวลาต่อมา
เริ่มทำสัญญาเช่ากันตั้งแต่เดือน มิ.ย.2562 ในราคา 10,000 บาทต่อเดือน พร้อมค่าห้องล่วงหน้า 2 เดือน ปัญหาวิ่งเข้ามาหลังผ่านพ้นเดือนแรก
“เขาเริ่มจุกจิก โทรมาโวยวาย เจอแมลงตามซอกมุม หาว่าเราไม่ทำความสะอาด บ่นว่าน้ำแอร์รั่ว พอเราส่งช่างไปเขาก็ไม่อยู่ห้อง ผิดนัดต่อเนื่อง มีปัญหากับฝ่ายนิติฯ ค้างค่าน้ำค่าไฟเป็นระยะ”
มีครั้งหนึ่งหนุ่มอเมริกัน ประกาศไม่ขอจ่ายค่าเช่า 1 หมื่นบาทตามสัญญา โดยอ้างว่าต้องเอาเงินไปซ่อมประตู ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนทำให้เกิดความเสียหาย
“เขาลืมกุญแจห้อง และไปจ้างช่างมาสะเดาะกุญแจจนประตูเสียหาย” กุลิสราเล่าถึงปัญหาที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อ พร้อมกับบอกว่าอีกฝ่ายมักอ้างว่า “ไม่กลัวกฎหมายและตำรวจไทย”
เธอยังมาทราบภายหลังอีกว่าพ่อหนุ่มตาน้ำข้าวรายนี้เคยทะเลาะกับแท็กซี่หน้าคอนโดเพราะไม่ยอมจ่ายเงินค่ารถ เดือดร้อนลูกบ้านคนอื่นที่ต้องมาเคลียร์ให้
หลังผ่านไป 4 เดือน ด้วยสารพัดปัญหาความจุกจิก ทำให้เธอตัดสินใจบอกเลิกสัญญาและสั่งให้อีกฝ่ายย้ายออกภายในเดือน ต.ค. รวมถึงทำความสะอาดห้องให้เรียบร้อยด้วย
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างตรงกันข้ามกับมาตรฐานที่เธอคาดหวัง ไม่มีความสะอาดให้เห็น มีแต่ขยะตั้งแต่หน้าประตูยันชักโครก รวมถึงหนี้สินที่รอการชำระ
“วันที่ 1 พ.ย. เข้ามาตกใจเลย ภาพก็อย่างที่ทุกคนเห็นอ่ะค่ะ ต้องจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม พื้นลามิเนตก็บวม เตียงก็เสียหาย ค่าไฟก็ไม่จ่าย”
ตอนนี้เธอไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.สุทธิสาร แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า สามารถเอาผิดทางแพ่งกับผู้เช่าได้เท่านั้น โดยแนะนำให้ไปร้องเรียนเองที่ศาล
กุลิสรา บอกว่า เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนของผู้เช่าที่ต้องแบกรับความเสี่ยง รู้หน้าไม่รู้ใจ ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าลูกบ้านเราจะดีหรือไม่ดี แถมขั้นตอนกฎหมายยังเป็นเรื่องยุ่งยาก เสียเวลาและไม่รู้ว่าท้ายที่สุดจะเรียกร้องหรือตามตัวเจอหรือไม่
“แล้วเเต่ดวงจริงๆ เราเดาไม่ได้เลยว่าผู้เช่าจะมารูปแบบไหน มองภายไม่รู้เลย ขอเตือนเป็นภัยสังคม นี่ยังกลัวว่าเขาจะไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีก เพราะเพิ่งทราบประวัติว่าเดินทางเข้าๆ ออกๆ ในไทย ทุกเดือน” เธอบอกและทิ้งท้ายว่า
"อยากขายห้องให้ได้ไวๆ ค่ะ"