ไม่พบผลการค้นหา
‘ปิยรัฐ’ โวยร้องเรื่องบ่อนกลางตลาดไม่คืบ โชว์หลักฐานแฉกระบวนการต้มตุ๋นประชาชน มีตลาดเวียนบังหน้า เชื่อคนมีสี-อิทธิพลเอี่ยวเบื้องหลัง คาดเสียหายหลักร้อยล้าน

วันที่ 18 ต.ค. ที่อาคารรัฐสภา ปิยรัฐ จงเทพ สส. เขตบางนา กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล แถลงข่าวเปิดหลักฐานตลาดนัดสัญจรที่มีบ่อนการพนันอยู่ภายในรวมถึงกระบวนการต้มตุ๋นประชาชน ซึ่งปิยรัฐได้นำภาพ และหนังสือร้องเรียนที่เคยดำเนินการมาเปิดให้สื่อมวลชนดูอพร้อมกับกล่าวว่า บริเวณถนนแบริ่ง-ลาซาลตัดใหม่ มีบ่อนการพนันในตลาดนัดมาหลายเดือน ซึ่งเดือนหนึ่งจะมาประมาณ 10 วันและจะหมุนวนไปเรื่อยๆไม่ใช่แค่เขตบางนา 

ปิยรัฐ เชื่อว่ามีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอนเพราะเรามีการร้องเรียนไปทุกสำนักหน่วยงานของรัฐเริ่มจากวันที่ 18 ก.ค. ได้ไปร้องเรียนที่สำนักงานเขตเรื่องบ่อนในตลาดนัดในซอยอุดมสุข 11 ซึ่งห่างจากสถานีรถไฟฟ้าเพียง 100 เมตรเท่านั้นซึ่งได้รับคำตอบจากสำนักงานเขตว่าตลาดกำลังทำการขออนุญาตแต่ยังไม่ได้รับอนุญาต

"ผมตั้งคำถามว่าตลาดที่ไม่อนุญาตให้เปิดได้อย่างไร สำนักงานเขต ตอบอีกว่าก็ได้เปรียบเทียบปรับไปแล้ว เป็นเอกสารที่ปรับแค่ความเดือดร้อนรำคาญ ไม่ได้ปรับว่าด้วยเรื่อง พ.ร.บ.สาธารณะ หรือข้อบัญญัติของ กทม. ที่ว่าด้วยเรื่องตลาด" ปิยรัฐ กล่าว

ปิยรัฐ ยังแสดงใบเสร็จเปรียบเทียบปรับ พร้อมกล่าวว่า ปรับแค่เพียงวันละ 500 บาทมาโดยตลอด ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่ออ้างว่าตลาดไม่มีความผิดเดือนต่อไปจึงทำหนังสือไปที่กรมการปกครองในวันที่ 7 ส.ค. ส่วนตอนนี้ยังไม่ได้หนังสือตอบกลับมาว่าจะดำเนินการอย่างไรจากกระทรวงมหาดไทยเดือนกันยายนจึงต้องไปตั้งคำถามในสภาฯ 

"ผมหมดปัญญาที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน จึงต้องมาตั้งคำถาม ก็คิดว่าเรื่องจะทุเลาเบาบางลงจะได้รับการแก้ไข ปรากฏว่าวันที่ 13 ต.ค. อ้างวันสำคัญของชาติ กลับมาตั้งตลาดอีกครั้งหนึ่งจนยาวถึงวันที่ 23 ต.ต. ซึ่งวันที่ 13 ตุลาคมมีประชาชนร้องเรียนมาตั้งแต่ช่วงหัวค่ำดึกดื่นก็ร้องเรียนมาที่ผม ที่หนักสุดคือเงินจำนวน 300,000 บาทที่เสียไป" ปิยรัฐ กล่าว

ปิยรัฐ กล่าวต่อไปว่า ตนถูกตราหน้าว่ามีส่วนรู้เห็นทำให้ต้องไปยืนประกาศเตือนหน้าตลาดว่าให้ระมัดระวัง พร้อมย้ำว่าตลาดนี้ไม่ได้จัดแบบปกติตามรูปแบบ มองว่าการจัดตั้งผิด พ.ร.บ.สาธารณสุขซึ่งตลาดนัดต้องมีการขออนุญาตท้องถิ่นจึงตั้งคำถามว่าเมื่อ กทม.ไม่อนุญาตจึงตั้งตลาดได้อย่างไร ตนอยากรู้ว่าใครเป็นคนขอตั้งแต่เมื่อไหร่และรูปแบบเป็นอย่างไร ถือเป็นข้อผิดพลาดของ กทม.หรือไม่ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือทำผิดกฎหมาย 

ปิยรัฐ อธิบายแผนผังตลาด ว่ากระทบต่อชุมชนโดยรอบอย่างแน่นอน มีตลาดนัดอยู่ข้างหน้าขายของอยู่ไม่กี่ซุ้ม แต่ซุ้มสีเหลืองที่อยู่ข้างในสุดมีผ้าล้อมไว้มิดชิดและมีการเล่นการพนันอยู่ในนั้น นอกจากนี้ยังมีวงล้อเสี่ยงทาย แทนที่จะโยนเป็นไฮโลก็แทงเป็นตัวเลขกันตั้งเรียงกันเป็น 10 ซุ้ม มีหน้าม้ายืนลายล้อมซุ้มละราวประมาณ 4-5 คน หน้าม้าเหล่านี้จะสอบถามว่ามีเงินหรือไม่ และชักชวนมาให้เล่นการพนัน 

ส่วนตำรวจก็จะอ้างว่าไม่พบการพนัน ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติตำรวจมักจะไม่เจออะไรในสิ่งที่ไม่ตนไม่อยากเจอ เมื่อตำรวจไม่อยากเจอเขาก็บันดาลให้ไม่เจอได้ตนแจ้งไป เวลา 19.18 น. ผู้กำกับเดินทางมาถึงเวลา 20.18 น.ใช้เวลาเดินทางนานมากทั้งที่ สน.อยู่ใกล้ไม่ถึง 2 กิโลเมตร 

เมื่อถามว่ามูลค่าความเสียหายโดยรวมทั้งหมดมีอยู่เท่าไหร่ ปิยรัฐ กล่าว่า ที่ร้องเรียนมาแล้วเกือบ 1 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วมีตั้งแต่หลักพันไปถึงหลักแสน ซึ่งการจะแจ้งความหรือไม่ขึ้นอยู่กับเจ้าตัว เนื่องจากบางคนก็กังวลเรื่องการข่มขู่ทำให้ไม่กล้ามาร้องเรียน

ส่วนที่กล่าวว่ามีผู้มีอิทธิพลรายละเอียดเป็นอย่างไรนั้น ปิยรัฐ กล่าวว่า ตนไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นบุคคลใดมีสีไหน แต่หน่วยงานรัฐทุกหน่วยงานที่ตนไปร้องเรียน ตั้งแต่สำนักงานเขตจนถึงกระทรวงมหาดไทย หรือสถานีตำรวจ ล้วนไม่ได้ดำเนินการอย่างจริงจัง แม้ว่าเราจะพยายามแล้ว ตนไม่รู้ว่าผู้ยิ่งใหญ่นั้นจะเป็นใครและยิ่งใหญ่ขนาดไหน พร้อมเผยว่า จะตั้งกระทู้ถามในสภาฯ สัปดาห์นี้

ส่วนที่ ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมารับลูกยินดีหากส่งหลักฐานไปให้ตรวจสอบ ปิยรัฐ กล่าวว่า ตนได้ส่งเรื่องไปให้กระทรวงมหาดไทยตั้งแต่วันที่นายชาดาได้เข้ารับตำแหน่งแล้ว ก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่ถ้าอยากได้เพิ่มเติมก็ยินดีไม่มีปัญหา ทางนี้ตนจะนำเรื่องนี้ไปหารือในกรรมาธิการ ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศของสภาฯด้วย เพราะมองว่าปัญหานี้เป็นต้นตอของปัญหาความมั่นคง และอาชญากรรมอื่นๆ

ปิยรัฐ ยังกล่าวว่าตนได้มีการพูดคุยกับเพื่อน สส. ก็มีปัญหานี้คล้ายๆกัน ตลาดแบบนี้มีมานับ 10 ปี ต้นคิดว่าหักเดือนหนึ่งมีตลาดแบบนี้ 10 จุด ก็มีความเสียหายเป็นหลัก 100 ล้าน