ไม่พบผลการค้นหา
หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล เสนอรัฐบาลใช้เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท เยียวยาประชาชนให้ทั่วถึง อย่าเพิ่งรีบกระตุ้นในส่วน 400,000 ล้านบาท

นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ กล่าวว่า เมื่อวานนี้มีมติ ครม.อนุมัติ พ.ร.ก. ซึ่งยังเห็นแค่ภาพรวม ในส่วนของมาตรการด้านสาธารณสุขและเยียวยาประชาชน 600,000 ล้านบาท ยังไม่มีความชัดเจน ก้อนนี้จะจัดสรรเพื่อสาธารณสุขจำนวนเท่าไหร่ และมาตรการเยียวยาประชาชนเท่าไหร่ นอกจากต่ออายุมาตรการเดิม มาตรการเยียวยาประชาชน มีการขยายเวลาการช่วยเหลือรายได้ 5,000 บาทออกไป 3 เดือนเป็น 6 เดือน เพื่อดูแลแรงงานนอกระบบ แต่ว่าน่าเสียดายที่ครอบคลุมคนเพียงแค่ 8 ล้านคน ลดลงจากเดิม 1 ล้านคนตามที่เคยมีมติครม.ในสัปดาห์ที่แล้ว

แต่ยังมีกลุ่มอื่นๆ ที่ควรได้รับการช่วยเหลือ โดยเฉพาะแรงงานในระบบที่ยังไม่ถูกเลิกจ้างและไม่ได้ว่างงาน ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ขยายวงกว้างทำให้แรงงานได้รายได้ลดลงจากการถูกตัดชั่วโมงทำงาน-ลดเงินเดือน ถูกบังคับให้หยุดงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง หรือ leave without pay ทุกวันนี้มีเพียงการจ่ายเงินชดเชยให้เฉพาะคนที่ว่างงาน ถูกพักงานเพื่อกักตัว หรือเลิกจ้าง ซึ่งเป็นกลไกปกติที่มีอยู่แล้วของระบบประกันสังคม และยังใช้เงินจากกองทุนประกันสังคมมาจ่าย ไม่ได้มีการเติมเงินจากงบประมาณรัฐแต่อย่างใด ปลายปีที่แล้วกองทุนว่างงานนั้นมีเม็ดเงินอยู่เกือบ 170,000 ล้านบาท

พยุงการจ้างงาน -ชะลอแผนทุ่ม 4 แสนล้านบาท

ทั้งนี้สิ่งที่พรรคก้าวไกลอยากเห็นอยากเห็น คือการใช้เม็ดเงินที่ใช้ในการพยุงการจ้างงาน รัฐบาลช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถยังจ้างงานได้ต่อ หลายประเทศรัฐจ่ายเงินสมทบค่าจ้างให้ 75%-80% แต่ไม่เกินจำนวนนึงเพื่อให้คงการจ้างงานไว้ รัฐบาลเองก็เคยมีไอเดียที่ดีคือการนำค่าจ้างเงินเดือน มาลดหย่อนภาษีได้ 3 เท่า แต่ต้องคงการจ้างงานไว้ในอัตราเดิม แต่มาตรการไม่เคยนำมาประกาศใช้จริง ก็ขอให้ทบทวนมาตรการนี้อีกครั้ง

ในส่วนของด้านมาตรการด้านสาธารณสุข เราเห็นว่ามีความเร่งด่วน 3 เรื่อง คือ การตรวจ การรักษา และการอำนวยความสะดวกในการกักตัว ดังนั้นเราคาดหวังว่าจะเห็นการลงทุนในเครื่องตรวจผู้ติดเชื้อ เพื่อทำการตรวจให้ครอบคลุมที่สุด สองคือการรักษา ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ โดยเฉพาะอุปกรณ์สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก เช่น เครื่องช่วยหายใจ และห้องแรงดันติดลบ และสุดท้ายคือการจัดเตรียมสถานที่สำหรับการกักตัวสำหรับผู้มีความเสี่ยง ขอให้รัฐบาลให้ความชัดเจนว่าจะนำงบประมาณส่วนนี้ไปลงทุนเพิ่มได้เป็นจำนวนเท่าไหร่ 

ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 400,000 ล้านบาท รัฐบาลยังไม่มีแผน อาจจะยังไม่ใช่เวลา และสามารถออกเป็นพ.ร.บ.ได้ รวมถึงงบประมาณส่วนที่รัฐบาลบอกว่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 400,000 ล้านนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกมาบอกเองว่ายังไม่มีรายละเอียด รอหน่วยราชการเสนอแผนขึ้นมา ซึ่งมีความเสี่ยงจะเป็นงบแบบเบี้ยหัวแตกแบบที่เคยเป็นมาอย่างกรณีโครงการไทยนิยมยั่งยืน ไม่เกิดความคุ้มค่าสูงสุด ยิ่งถ้ายังไม่แผนที่ชัดเจน เกรงว่าจะสูญเปล่า

ทบทวนจัดลำดับ ปรับร่างงบปี 2564

พรรคก้าวไกลจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลชะลอแผนส่วนนี้ไปก่อน และนำแผนการฟื้นฟูและกระตุ้นทั้งหมดไปพิจารณารวมกับงบประมาณ 64 ด้วยเหตุผลสำคัญ 3 ประการ เวลานี้ไม่ใช่เวลาของการกระตุ้นเศรษฐกิจ จากสถานการณ์ COVID19 เราไม่แน่ใจว่าจะสามารถเบิกงบไปลงทุนสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อย่างไร ตอนนี้สิ่งสำคัญคือการประคองชีวิตคนไม่ใช่การกระตุ้นเศรษฐกิจ การคาดการณ์ของหลายสำนักบอกว่าวิกฤตจะเริ่มคลี่คลายอย่างเร็วคือหลังไตรมาส 3 ปีนี้ 

ดังนั้นถ้าอยากฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจควรออกเป็นพ.ร.บ.ตามมา หรือรองบประมาณปี 2564 ก็ยังทัน และควรถือโอกาสนี้ทบทวนงบประมาณ 2564 ใหม่ทีเดียว จากที่เห็นกรอบงบประมาณ 64 และแผนการใช้เงินก้อนนี้แล้ว เรายังไม่เห็นการทบทวนการใช้งบประมาณที่สอดคล้องกับสถานการณ์ รัฐบาลควรถือโอกาสนี้กลับไปทบทวนจัดลำดับความสำคัญ ตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป ถ้าจัดใหม่ดี ๆ เราจะมีงบประมาณในการฟื้นฟูประเทศไม่ใช่แค่ 4 แสนล้านบาท แต่จะบวกเพิ่มไปอีก 1.2 ล้านล้านบาท