ไม่พบผลการค้นหา
ถือเป็นช่วงบีบหัวใจสำหรับ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับวาระนายกฯ 8 ปี ที่จะครบ 23 ส.ค.นี้ ในฝั่ง ‘ตึกไทยคู่ฟ้า’ ที่อยู่กับ ‘บิ๊กตู่’ ก็เชื่อว่านายกฯจะ ‘รอด’ ฝ่าบ่วงวาระ 8 ปีไปได้ จะได้ดำรงตำแหน่งต่อไป ไม่ว่าจะ 2 ปี หรือได้อีก 1 สมัย 4 ปี

ถ้า ‘บิ๊กตู่’ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี อีก 2 ปี ก็จะสอดรับกับ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่านายกฯจะเป็นอีก 2 ปี แต่หากเป็น 2 ปี ในแง่ทางการเมืองก็มองว่าจะ ‘ขาดตอน’ ได้ ดังนั้นจึงเริ่มมีการขุดเอกสารต่างๆ นอกเหนือรัฐธรรมนูญ ปี2560 ขึ้นมา เพื่อชี้ว่าการนับวาระนายกฯ เริ่มหลังเลือกตั้งปี 2562 เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ได้ต่ออีกสมัย

ในส่วนอำนาจ 250 ส.ว. ในการเลือกนายกฯ ระยะ 5 ปี จะสิ้นสุดปี 2567 ซึ่งเป็นรอยต่อระยะเวลาเป็นนายกฯ 2 หรือ 4 ปี พอดี มีการคาดการณ์กันว่าภายหลัง 250 ส.ว. ไม่มีอาญาสิทธิ์นี้ จะนำมาสู่ความเปลี่ยนแปลงการเมือง โดยเฉพาะชื่อ ‘เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล’ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่จะมีโอกาสขึ้นมาชิงนายกฯ

หากยังมี ส.ว. อยู่ ชื่อที่มีความเป็นไปได้ คือ ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่จะมาในรูป ‘นายกฯ คนนอก’ ก็ได้ หรือ ‘บิ๊กป้อม’ จะไปอยู่ในบัญชีนายกฯ พปชร. ก็ได้เช่นกัน โดยอาศัยเสียง ส.ส. และ ส.ว. กรุยทางขึ้นมา อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ก็มีการกระแสข่าว ‘ดีลลึกลับ’ มาแล้ว ในการใช้เสียง ส.ส.รัฐบาล ส.ส.ฝ่ายค้านบางส่วน และเสียง ส.ว. ที่เป็นตัวชี้ขาด ซึ่ง ส.ว. 250 คน ถูกแต่งตั้งในยุค คสช. ผ่านคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ที่มี ‘บิ๊กป้อม’ เป็น ประธานฯ

ทำให้ ‘บิ๊กป้อม’ มีชื่อเป็น ‘นายกฯ สำรอง’ เต็งหนึ่ง ส่วนชื่อ ‘อนุทิน’ ก็ตีคู่ขึ้นมา แต่ ‘อนุทิน’ ก็ต้องฝ่าด่าน ส.ว. ไปให้ได้ จนกว่า ส.ว. จะหมดอำนาจเลือกนายกฯปี 2567 ชื่อของ ‘อนุทิน’ ก็มีสิทธิ์ได้ลุ้นในอนาคต

ประยุทธ์ ประวิตร ประชุมสภา อภิปรายไม่ไว้วางใจ AAD22D2D5C24.jpeg

แต่ในเวลานี้ในฝั่ง ‘บิ๊กตู่’ ยังเชื่อว่าตัวเองยังได้ไปต่อ แต่ในพี่น้อง ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ ก็มี ‘คลื่นใต้น้ำ’ เกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาเคยเกิดการวางแผน ‘ล้มนายกฯ’ มาแล้ว แต่ ‘บิ๊กตู่’ ไหวตัวแก้เกมทัน

ล่าสุดในศึกซักฟอก ที่คราวนี้ ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย โดน ส.ส.สายปากน้ำ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กระตุกหนวดเสือ โหวตคว่ำ จนได้คะแนน ‘ไม่ไว้วางใจ’ มากที่สุด พร้อมเขย่าเปลี่ยน มท.1 ใหม่ ชงชื่อ ‘บิ๊กป้อม’ ขึ้นมาเป็นแทน แถม ‘บิ๊กป้อม’ ยังขึ้นเวทีรับปาก จะมอบเก้าอี้ รมต. ให้สายปากน้ำด้วย แต่ผ่านมา 1 เดือน สถานการณ์ก็ลดความระอุ ท่าทีของ ‘บิ๊กตู่’ ก็ยังไม่คิดปรับ ครม. ไม่ทำตามกระแสกดดัน

ช่วงปลายรัฐบาล ทำให้อำนาจของ ‘บิ๊กตู่’ ไม่หนักแน่น เฉกเช่นในยุค คสช. หรือช่วงต้นรัฐบาลเลือกตั้ง ในช่วงฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้าย ก็ทำให้ ‘อำนาจต่อรอง’ ลดลงไปด้วย

โดยเฉพาะโผทหารชั้นนายพลทิ้งท้ายรัฐบาล ที่ ‘บิ๊กตู่’ จะต้องนำประชุมบอร์ด ‘7 เสือกลาโหม’ ให้แล้วเสร็จช่วง ส.ค.นี้ สำหรับ ‘กองทัพ’ ถือเป็นเสาค่ำอำนาจ ‘บิ๊กตู่’ มาตั้งแต่ยุค คสช. ผ่านมา 8 ปี ผบ.เหล่าทัพ เปลี่ยนไปหลายชุด ก็ยิ่งมีความห่างเหินกับ ‘บิ๊กตู่’ เพราะรุ่นเตรียมทหารห่างกัน และไม่ใช่ทหารที่เติบโตหรือเป็นสายเดียวกัน

ณรงค์พันธ์ ผบ ทบ ทหารบก ทหาร -9D49-3263DC8E8CFA.jpeg

โดยเฉพาะ ผบ.ทบ. ที่คุมขุมกำลังใหญ่ที่สุด ตั้งแต่ต้นปี 2565 มีกระแสข่าวในรั้ว ทบ. ถึงการเปลี่ยน ผบ.ทบ. โดยมีกระแสข่าวโยก ‘บิ๊กบี้’พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. (ตท.22) ไปเป็น ผบ.ทหารสูงสุด หรือ ปลัดกระทรวงกลาโหม 1 ปี ก่อนเกษียณฯ ก.ย. ปี 2566 ช่วงนั้น พล.อ.ณรงค์พันธ์ ก็เก็บตัวเงียบทำงานในหน้าที่

แม้แต่ทวิตเตอร์ส่วนตัวที่มักรีทวีตภารกิจ ทบ. หรือกดไลค์ข่าวฝั่งรัฐบาล-กองทัพ ก็ไม่มีให้เห็น จนมาช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา พล.อ.ณรงค์พันธ์ กลับมาใช้ทวิตเตอร์อีกครั้ง กระแสเปลี่ยนเก้าอี้ ผบ.ทบ. ยังคงเป็นเพียงการข่าวปล่อยเท่านั้น

เจริญชัย หินเธาว์ -DA22-496C-9FF5-16721122BDA8.jpeg

(พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผช.ผบ.ทบ.)

สำหรับแคนดิเดต ผบ.ทบ. คนต่อไป เต็งหนึ่งในเวลานี้ คือ ‘บิ๊กต่อ’ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ที่จ่อขึ้นเป็น รอง ผบ.ทบ. เตรียมขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ปีหน้า โดย พล.อ.เจริญชัย ตท.23 เติบโตสายทหารเสือฯ ร.21 รอ. เหมือนกับ ‘บิ๊กตู่’

แต่ที่ถูกจับตาอีก คือตำแหน่งของ ‘บิ๊กอ๊อฟ’ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี หัวหน้าคณะนายทหารฝ่าย เสธ. ประจำผู้บังคับบัญชา (ตท.24) จะลงตำแหน่งใด โดยมีกระแสโยก พล.อ.ทรงวิทย์ ออก ทบ. ไปโตที่ บก.กองทัพไทย ขึ้นตำแหน่ง เสธ.ทหาร เพื่อเตรียมขึ้น ผบ.ทหารสูงสุด ปีหน้า ต่อจาก ‘บิ๊กแก้ว’ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ที่จะเกษียณฯ ก.ย. 2566 หากเป็นเช่นนี้จริง พล.อ.ทรงวิทย์ ก็จะเป็น ผบ.ทหารสูงสุด ที่เป็น ‘ทหารคอแดง’ คนที่ 2 

แต่มีรายงานว่า ผบ.ทหารสูงสุด ไม่จำเป็นต้องเป็น ‘ทหารคอแดง’ เฉกเช่น ผบ.ทบ. ทำให้ทหารลูกหม้อ บก.กองทัพไทย ที่ไม่ได้เป็นทหารคอแดง มีโอกาสลุ้นและงัดข้อเช่นกัน เพื่อให้คนในได้ขึ้นมา หลังโดน พล.อ.เฉลิมพล ที่โยกมาจาก ทบ. ‘เสียบยอด’ มาแล้ว ทำให้ พล.อ.ทรงวิทย์ อาจถูกโยกไปเป็น รองผบ.ทหารสูงสุด แช่แข็งไว้ก่อน

ประชุมหน่วยทหารบก ทหาร กองทัพบก ณรงค์พันธ์เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์  ณรงค์พันธ์ กองทัพไทย กองทัพบก ทหาร 1223_05.jpg

ในส่วนเหล่าทัพอื่นๆ ก็เข้มข้นไม่แพ้กัน ภายใน ทร. ก็มีคลื่นใต้น้ำ เพราะ ‘บิ๊กเฒ่า’ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. กรุยทางดัน ‘บิ๊กจอร์จ’ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้ช่วย ผบ.ทร. ขึ้นเป็น ผบ.ทร. คนต่อไป หลังโยกจาก บก.กองทัพไทย กลับถิ่น ทร. ในโยโยกย้าย เม.ย. 2565 โดยโยก ‘บิ๊กปู’ พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ที่ถูกมองว่าเป็นสาย ‘บิ๊กลือ’พล.ร.อ.ลือชัย อดีต ผบ.ทร. ออกจาก ทร. ไปเป็น รองเสธ.ทหาร แทน 

แต่ พล.ร.อ.เชิงชาย ตท.22 ก็ต้องชิงกับ ‘บิ๊กโต้ง’พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ รอง ผบ.ทร. ที่ครองอาวุโส ตท.21 และเป็น ‘พลเอกพิเศษ’ ทำให้ภายใน ทร. ยังมีคลื่นลมแรง เพราะ พล.ร.อ.ธีรกุล ถูกมองว่าเป็นคนสาย ‘บิ๊กลือ’พล.ร.อ.ลือชัย อาจโดนเหมือนกับ พล.ร.อ.สุทธินันท์ ที่โดนโยกออก ทร. หรือไม่ ทำให้มีชื่อ พล.ร.อ.ธีรกุล หากไม่ได้เป็น ผบ.ทร. อาจต้องไปเป็น รองปลัดกลาโหม แทน 

สมประสงค์ -8BFC-59CD5FF71FB8.jpeg

(พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร.)

แต่ภายใน ทร. ก็มีการถกเถียงเรื่อง ‘ความชอบธรรม’ เพราะชื่อ พล.ร.อ.ธีรกุล ครองอาวุโส-ยศ มากกว่า พล.ร.อ.เชิงชาย หลัง พล.ร.อ.ธีรกุล พลาดหวังจากเก้าอี้ ผบ.ทร. ครั้งที่แล้ว ต้องเปิดทางให้ พล.ร.อ.สมประสงค์ ที่โยกจากรองปลัดกลาโหม กลับ ทร. ขึ้นเป็น ผบ.ทร. เลย แต่หากย้อนดูวิธีตัดสินใจของ พล.ร.อ.สมประสงค์ เชื่อได้ว่ามีโอกาสสูงในการเสนอชื่อ พล.ร.อ.เชิงชาย ขึ้นเป็น ผบ.ทร. ในครั้งนี้

สำหรับเหล่า ทอ. มีแคนดิเดตหลายคน แต่ที่เป็นเต็งหนึ่ง คือ ‘บิ๊กต้น’พล.อ.อ.คงศักดิ์ จันทรโสภา (ตท.22) ผบ.หน่วยบัญชาการควบคุมปฏิบัติการทางอากาศ (ผบ.คปอ.) ขึ้นเป็น ผบ.ทอ. คนต่อไป เพื่อมาสานต่อโครงการ F-35A หลังสภากลาโหมอนุมัติปรับปรุงโครงสร้างหน่วยกำลังรบของกองทัพอากาศ จาก ‘กรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ’ ยกระดับขึ้นเป็น ‘กองบัญชาการควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ’ เพื่อรองรับการปฏิบัติการของอากาศยานรบยุคที่ 5 ซึ่งก็คือ F-35A ที่อยู่ระหว่างจัดหา

อีกทั้งทำให้สถานะ ผบ.คปอ. ถูกยกระดับ เทียบเท่า ‘5 เสือ ทอ.’ มากขึ้น หลังมีการถกเถียงกันมาตลอด ซึ่ง พล.อ.อ.คงศักดิ์ เคยอยู่ฝูงบิน 102 และ 103 กองบิน 1 กับ พล.อ.อ.นภาเดช มาก่อน และเป็นนักบิน F-16 เหมือนกัน

ทั้งหมดเป็นช่วง ‘รอยต่อซ้อนรอยต่อ’ ระหว่าง ‘นายกฯ-รัฐบาล-เหล่าทัพ’ ดังนั้นการจัดวาง ผบ.เหล่าทัพ จึงมีความสำคัญ หาก ‘บิ๊กตู่’ ยังไม่ตัดสินใจ ‘ลงหลังเสือ’ กับสถานการณ์ ‘แรงต่อต้าน’ ที่อาจขยายมากขึ้น เพราะนายกฯ อยู่มาแล้ว 8 ปีแล้ว

และหากผลการเลือกตั้ง เกิดการ ‘เปลี่ยนขั้วการเมือง’ ขึ้นมา จะเป็นอย่างไร แม้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จะขอให้ทุกคนต้อง ทำตามหน้าที่ ให้คิดถึงประชาชน ประเทศชาติ พร้อมอย่าไปคาดการณ์สิ่งลบ อย่าคิดไม่ดี และสิ่งที่ไม่รู้ ให้มี Think Positive ภาวนาประเทศชาติอยู่ดีมีสุขก็ตาม

การวาง ‘ขุนพล’ จึงสำคัญยิ่ง ในช่วง ‘หัวเลี้ยวหัวต่อ’ ทางการเมือง อยู่ที่ ‘บิ๊กตู่’ จะปล่อยให้เป็นตามที่เหล่าทัพเสนอทั้งหมดหรือไม่ หรือจะมีการ ‘เกลี่ยโผ-ล้วงโผ’ ระดับหัวใหม่หรือไม่ อีกไม่นาน ได้รู้กัน