การพบกันในครั้งนี้ของบลิงเคนและหวัง เป็นการหารือนอกรอบในการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในอินโดนีเซียเมื่อวันพฤหัสบดี (13 ก.ค.) ซึ่งมีขึ้น 1 วันหลังจากที่ไมโครซอฟต์ออกมากล่าวหาว่า มีการพบแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับจีน ที่เข้าถึงอีเมลของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และชาติตะวันตกอื่นๆ
แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า บลิงเคนและหวังมีการแลกเปลี่ยนที่ “ตรงไปตรงมาและสร้างสรรค์” พร้อมระบุว่า “การประชุมเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่อง ในการรักษาช่องทางการสื่อสารแบบเปิด เพื่อชี้แจงผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในประเด็นต่างๆ ที่หลากหลาย และเพื่อจัดการแข่งขันอย่างมีความรับผิดชอบ ด้วยการลดความเสี่ยงของการเข้าใจผิดและการคำนวณผิดพลาด”
สำนักข่าว AFP รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ไม่ได้เปิดเผยชื่อว่า บลิงเคนระบุกับหวังว่า ทางการสหรัฐฯ จะจับตัวแฮกเกอร์ที่มีเป้าหมายเป็นพลเมืองสหรัฐฯ ในขณะที่ทางการจีนปฏิเสธอย่างฉุนเฉียวว่า พวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการแฮกข้อมูล ที่รายงานออกมาโดยไมโครซอฟท์ ก่อนที่ทางการจีนจะเรียกสหรัฐฯ ว่าเป็น “อาณาจักรการแฮกข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และโจรกรรมทางไซเบอร์ระดับโลก”
มีหลายเหตุการณ์ที่เป็นตัวจุดชนวนการเผชิญหน้ากันระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ในประเด็นความขัดแย้งต่างๆ ระหว่างช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงประเด็นด้านการค้า สถานะของไต้หวัน การอ้างสิทธิ์ของจีนในทะเลจีนใต้ และการผลักดันของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อต่อต้านอิทธิพลของจีนที่เพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ความสัมพันธ์ของทั้งสองชาติยังตึงเครียดมากขึ้นในปีนี้ เมื่อสหรัฐฯ ยิงสิ่งที่ระบุว่าเป็นบอลลูนสอดแนมของจีนที่ลอยเข้ามาเหนือน่านฟ้าตัวเอง ในขณะที่จีนยืนยันว่าบอลลูนดังกล่าวเป็นบอลลูนตรวจอากาศที่ลอยออกนอกเส้นทาง
อย่างไรก็ดี ทั้งผู้นำของสหรัฐฯ และจีนย้ำว่าพวกเขาไม่ได้แสวงหาการเผชิญหน้า หรือสงครามเย็นครั้งใหม่ แม้ว่าการแข่งขันระหว่างพวกเขาจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ จำนวนหนึ่งได้เดินทางไปยังกรุงปักกิ่งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อพยายามจัดการกับความตึงเครียดเหล่านั้น ผ่านการเจรจากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน
บลิงเคนได้เข้าพบกับ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ในกรุงปักกิ่งเมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากนั้น สีได้กล่าวว่าทางการจีนหวังว่าจะได้เห็นทั้งสองประเทศเอาชนะความแตกต่าง และสร้าง "ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ที่ดีและมั่นคง"
หลังจากนั้น เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เธอได้มีการหารือที่ “มีประสิทธิผล” กับเจ้าหน้าที่จีน ระหว่างการเดินทางไปเยือนกรุงปักกิ่ง โดยเธอระบุเสริมว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนั้น “มั่นคงขึ้น” อันเป็นผลมาจากการเจรจาระหว่างทั้งสอง นอกจากนี้ จอห์น เคอร์รี ทูตด้านสภาพอากาศของสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนจีนในสัปดาห์หน้าเช่นกัน
เมื่อวันพฤหัสบดี กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า บลิงเคนใช้การประชุมกับหวัง “เพื่อพัฒนาผลประโยชน์และค่านิยมของสหรัฐฯ” นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังกล่าวด้วยว่า นักการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ ได้ยกข้อกังวลที่สหรัฐฯ และพันธมิตรมีร่วมกัน เกี่ยวกับการกระทำของจีนมาพูดคุยในการหารือ แต่แถลงการณ์ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
“เขา (บลิงเคน) ประกาศอย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯ ร่วมกับพันธมิตรและหุ้นส่วนของเรา จะพัฒนาวิสัยทัศน์ของเราสำหรับระเบียบระหว่างประเทศที่เสรี เปิดกว้าง และอิงตามกฎเกณฑ์” มิลเลอร์กล่าว
ที่มา