ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงได้ออกมาแจ้งข่าวว่าในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอนให้มีความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่กลุ่มคนร้ายลอบยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และลอบวางระเบิด จักรยานยนต์บอมบ์ รวมถึงคาร์บอมบ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้กลุ่มคนร้ายได้ประกอบระเบิดเป็นจักรยานยนต์บอมบ์ จำนวน 5 คัน และกลุ่มคนร้ายได้ก่อเหตุลอบวางระเบิดจักยานยนต์บอมบ์ ไปแล้วในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา และ อ.หนอกจิก จ.ปัตตานี
โดยพล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งการให้จุดตรวจ 4 มุมเมือง คือ จุดตรวจท่าสาป เส้นทางมาจาก อ.ยะหา อ.กาบัง จ.ยะลา จุดตรวจมลายูบางกอก เส้นทางมาจาก อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส อ.รามัน อ.บันนังสตา อ.ธารโต อ.เบตง จ.ยะลา จุดตรวจขุนไว เส้นทางมาจาก อ.ยะรัง จ.ปัตตานี และ จุดตรวจเมืองทอง เส้นทางมาจาก อ.รามัน จ.ยะลา อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ตั้งด่านตรวจเข้มรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และ ตรวจสอบบุคคลเป้าหมายพร้อมตรวจสอบหมายเลข 13 หลัก ทุกคนเพื่อตรวจหาผู้ที่มีหมายจับทั้ง หมายพระราชกำหนด และ หมาย ป.วิอาญา จะเข้ามายังตัวเมืองยะลา อย่างละเอียดเข้มงวด
พร้อมทั้งให้ควบคุมรถยนต์ และ จักรยานยนต์ ที่ขาดการเสียภาษี ตลอดจนไม่สามารถนำหลักฐานการเป็นเจ้าของมาแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ได้ พร้อมทั้งประสานกับสำนักงานขนส่งจังหวัดยะลา ตรวจหลักฐานการครอบครองรถอย่างถูกต้อง
ข่าวล่าสุด หลังจาก จนท.นปพ.ร่วม ทหาร ตำรวจ จ.ยะลา ได้เข้าปิดล้อม บ้านไม่มีเลขที่ ในพื้นที่บ้านเจาะตาแม หมู่ที่ 4 ต.กาตอง อ.ยะหา จ.ยะลา จนเกิดการปะทะกันยาวนานกว่า 5 ชั่วโมง ทำให้นายอับดลุเลาะ ลาเต๊ะ เสียชีวิตจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ โดยนายอับดุลเลาะเป็นบุคคลระดับปฏิบัติการคนสำคัญที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.กาบัง และ อ.ยะหา มีหมายจับ 7 หมาย และยังเป็นคนสนิทของ นายซาอุดี สตาปอ แกนนำระดับสั่งการรับผิดชอบ พื้นที่ อ.ยะหา อ.กาบัง และบางส่วนของ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ทำให้นายซาอุดีเคลื่อนไหวในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของ อ.กาบัง ซึ่งฝ่ายความมั่นคง ประเมินสถานการณ์ว่า อาจมีการตอบโต้ด้วยลอบวางระเบิด และซุ่มโจมตีฐานที่ตั้งของเจ้าหน้าที่เพื่อเป็นการตอบโต้และแก้แค้นให้กับผู้เสียชีวิตด้วย
'ประวิตร' เชื่อคนร้ายก่อเหตุเป็นคนกลุ่มเดิม คาดหลังรอมฎอนคลี่คลาย
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเหตุการณ์ไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในขณะนี้ ว่า เรื่องดังกล่าวตนเองได้มีการกำชับไปก่อนหน้านี้แล้วเนื่องจากอยู่ในช่วงของเดือนรอมฎอน อาจเกิดเหตุจนมีผู้เสียชีวิตได้ จึงได้สั่งการให้มีการดูแลมาโดยตลอดเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนกลุ่มเดิม
ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามทำงานอย่างเด็ดขาด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งประชาชนในพื้นที่มีความเข้าใจมากขึ้น และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เกิดกับทหารและตำรวจ เชื่อว่าหลังจากหมดช่วงของเดือนรอมฎอนเหตุการณ์ต่างๆจะขี้คลายมากขึ้น โดยเจ้าหน้าจะปราบปรามและดำเนินการกับผู้ก่อเหตุ