กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ เผยในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO:World Economic Outlook) ฉบับล่าสุด เตือนถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของโลก เช่น กูเกิล แอปเปิล แอมาซอน และเฟซบุ๊ก กุมอำนาจของตลาดไว้แทบทั้งหมดจนอาจเป็นการบ่อนทำลายนวัตกรรมใหม่ๆ รวมทั้งสร้างความยากลำบากให้ธนาคารกลางแต่ละแห่งจัดการกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
พร้อมกับแนะว่า การมีกฏหมายการค้าเข้มแข็งขึ้นเป็นทางออกสำคัญ เนื่องจากจะเป็นการการันตีว่าบริษัทรายใหญ่เหล่านี้จะไม่ใช้ความได้เปรียบที่ตนมีขัดขวางการเข้ามาสู่สนามการค้าของคู่แข่งอื่นๆ
อีกทั้งยังควรมีมาตรการด้านภาษีระหว่างประเทศที่เข้มงวดขึ้นเพื่อสร้างความเท่าเทียมในการดำเนินธุรกิจ
หากไม่มีมาตรการแก้ไขใดๆ "การลงทุนจะอ่อนแอลง การสร้างนวัตกรรมจะช้าลง รายได้แรงงานจะลดลง และผู้กำหนดนโยบายจะเผชิญความยากลำบากเพิ่มผลิตผลในยามที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มอยู่ในขาลง"
แม้ว่างานศึกษาของไอเอ็มเอฟจะไม่ได้กล่าวถึงชื่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ว่าหมายถึงรายใดบ้าง แต่ในช่วงระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาเห็นได้ชัดเจนแล้วว่าใครเป็นผู้ครองตลาด โดยการกระจุกตัวของบริษัทเทคโนโลยีดูมีความหนาแน่นมากในสหรัฐฯ มากกว่าในฝั่งยุโรป
เหล่ายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีถูกกล่าวหามาเป็นเวลานานเรื่องความพยายามครองตลาดด้วยการเข้าไปซื้อหรือควบรวมกิจการกับบริษัทเทคโนโลยีรายย่อย เพื่อลดคู่แข่งทางการค้า ซึ่งไอเอ็มเอฟชี้ว่า ความพยายามในการลดคู่แข่งของบริษัทที่ประสบความสำเร็จเป็นสัญญาณบอกว่าควรมีการปรับโครงสร้างเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับตลาดการค้ามากขึ้น
อ้างอิง; The Guardian