อย่างไรก็ดี ปรีโกชินยอมรับว่ากองกำลังยูเครนยังคงกระจุกตัวอยู่ในเขตทางตะวันตก ในขณะที่ทางการยูเครนยืนยันว่า กองทัพของพวกเขายังคงครอบครองเมืองบักห์มุต ซึ่งเป็นเมืองทางตะวันออกที่รัสเซียใช้เวลาหลายเดือนในการพยายามยึดครอง ด้วยการล้อมตีและยิงถล่มเมืองมาอย่างยาวนาน
เสนาธิการกองทัพยูเครนกล่าวเมื่อค่ำวันอาทิตย์ (2 เม.ย.) ว่า แม้รัสเซียจะยังไม่หยุดการโจมตีเมืองบักห์มุต แต่ "ทหารรักษาการณ์ของยูเครนยังคงครองเมืองไว้อย่างกล้าหาญ ในขณะที่พวกเขาขับไล่การโจมตีของศัตรูจำนวนมาก"
อันดรีย์ เยอร์มัก เสนาธิการของ โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้เรียกร้องให้ผู้คน "ตอบรับอย่างใจเย็น ต่อผู้ที่ปลอมแปลงประดิษฐ์ 'ชัยชนะ' ที่ไม่มีอยู่จริง" ในขณะที่ ฮันนา มาเลียร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน กล่าวว่าคำกล่าวอ้างของวากเนอร์เป็น "เรื่องปลอมที่น่าขบขัน"
จากการวิเคราะห์โดยสถาบันศึกษาสงคราม (ISW) ระบุว่า ณ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ยูเครนยังคงยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองไว้ได้ แม้ว่ากองทหารรัสเซียจะพยายามปิดล้อมจากทางใต้และตะวันออกก็ตาม ทั้งนี้ มีทหารรัสเซียและยูเครนหลายพันนายเสียชีวิต ในการต่อสู้เพื่อควบคุมเมืองบักห์มุต และมีการคาดว่าการสูญเสียของรัสเซียนั้นอาจสูงกว่ายูเครนอย่างมาก
วากเนอร์ซึ่งมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่ากองร้อยทหารเอกชน ประสบความสูญเสียอย่างหนักระหว่างการสู้รบในบักห์มุต โดยสมาชิกใหม่หลายคนของกองทหารรับจ้าง เป็นนักโทษที่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำของรัสเซีย ซึ่งถูกเกณฑ์ทหารเพื่อเพิ่มจำนวนกำลังพลของกลุ่ม ทั้งนี้ มีกองทหารจากกองทัพรัสเซียเข้าประจำการ และกำลังสู้รบในบักห์มุตเช่นเดียวกับกองทหารวากเนอร์ด้วย
เมืองบักห์มุตมีคุณค่าทางยุทธศาสตร์เพียงเล็กน้อย แต่ยูเครนเห็นว่า ตัวเมืองเป็นช่องทางสำคัญสำหรับการเคลื่อนยุทโธปกรณ์ทางทหารและกำลังพลของรัสเซีย ทั้งนี้ ผู้บัญชาการกองทัพรัสเซียหวังว่า การยึดครองบักห์มุตอาจทำให้พวกเขามีฐานที่มั่น เพื่อผลประโยชน์ในด้านการครอบครองดินแดนเพิ่มเติมมาจากทางยูเครน อย่างไรก็ดี กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรระบุเมื่อเดือน ธ.ค.ว่า การยึดเมืองบักห์มุตนี้ "อาจทำให้รัสเซียสามารถคุกคามพื้นที่เมืองใหญ่อย่างครามาตอรสก์ และสโลเวียนสก์"
ในขณะเดียวกัน มีการคาดว่ากองกำลังยูเครนจะเปิดฉากการรุกคืนครั้งใหม่ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อพยายามยึดดินแดน ที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซียกลับคืนมา ทั้งนี้ การดำเนินการนี้คาดว่าจะเริ่มขึ้นเมื่อเสบียงอาวุธจากตะวันตกที่ได้รับการสัญญาไว้นาน รวมถึงรถถังเลียวพาดของเยอรมนีจะถูกส่งมาถึงยูเครนในเร็วๆ นี้
ที่มา: