คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งระหว่าง ส.ส.ภาค กทม. และกรรมการบริหารพรรค หลังนายสุรชาติ เทียนทอง อดีต ส.ส. กทม. ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าพรรคมีมติส่งผู้สมัคร กทม.ในนามพรรค โดยเห็นว่าภาค กทม.ทำตามระบบของพรรค เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับอนาคตของเขาโดยตรง และมีพันธสัญญาที่ทั้ง ส.ก. และ ส.ข. กทม. มีต่อคนกรุงเทพฯ และพรรคก็ตั้งความหวังว่าจะมีคนของพรรคมาลงสมัคร แต่เมื่อไม่เป็นไปตามที่หวัง ภาค กทม. ก็หารือกันว่าจะเดินหน้าอย่างไร และมีความคิดเห็นที่จะส่งให้ผู้บริหารของพรรคพิจารณาตามระบบ ยืนยันว่าทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง
โดยเห็นว่าส่วนที่นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค แถลงข่าวเมื่อวานนี้ ก็ไม่ได้พูดผิดอะไรเพราะพรรคก็ยังไม่มีมติ พร้อมย้ำว่าเมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามความคาดคิดของเรา พรรคก็ต้องกลับมาหารือกันอีกทีว่าจะทำอย่างไร และอาจจะหารือกันทั้ง 7 พรรคฝ่ายค้านว่าจะเอาอย่างไร ตนมองว่ายังมีเวลา ไม่รีบร้อน อีกทั้งยังเห็นว่าไม่ใช่การหักหน้ากัน และย้ำว่าบทบาทและหน้าที่ของ ส.ส. ภาค กทม. ยังมีอยู่และออกความคิดเห็นได้ ไม่มีความขัดแย้งหรือความไม่เข้าใจกัน
ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะส่งหรือไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่า กทม. ทุกอย่างต้องรอมติที่เป็นที่สิ้นสุดของพรรค แต่ตอนนี้ขอให้เวลากับเรื่องการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่จะมีขึ้นไม่กี่วันนี้ก่อน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ตอนนี้ยังมีความจำเป็นไหมที่ต้องส่งผู้สมัครในนามพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคใหญ่ แม้วันนี้นายชัชชาติที่เคยเป็นความหวังของพรรคได้ประกาศลงสมัครในนามอิสระแล้ว คุณหญิงสุดารัตน์ ตอบว่า ยังบอกตอนนี้ไม่ได้ ต้องคุยกับพรรคร่วมก่อน เพราะตนคนเดียวไม่สามารถจะพูดอะไรก่อนได้ และทุกคนก็ไม่ควรจะแสดงความคิดเห็นไปก่อนว่าจะไปสนับสนุนผู้สมัครอิสระหรือจะส่งผู้สมัครในนามพรรค ซึ่งควรจะรอให้เกิดความชัดเจนและหารือกันในพรรคก่อน ส่วนที่ภาค กทม. มีความเห็นอย่างนั้น เราก็นำความเห็นของภาคเขามาประกอบการพิจารณา เรื่องราวมีแค่นี้ ไม่มีอะไรซับซ้อน และส่วนตัวยังไม่ขอออกความเห็นตอนนี้ว่าใครเหมาะสม
ด้านนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งในพรรค แต่ที่ผ่านมาไม่เคยมีการแถลงข่าวใดๆ ก่อนมีมติพรรค และการปฏิบัติงานของฝ่าย กทม. ก็ทำมาด้วยดีตลอด แต่ไม่เคยมีการแถลงข่าวใดๆ มีแต่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ ส.ส. ภาค กทม. ออกมาแสดงความคิดเห็นและให้สัมภาษณ์กับสื่อ ตนจึงออกมาแถลงการณ์และแสดงจุดยืนว่าพรรคยังไม่มีมติใดๆ เพรากลัวประชาชนและสื่อมวลชนมีความสับสน เรื่องผู้สมัครผู้ว่า กทม. และเห็นว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องไปหารือหรือมีข้อสรุปร่วมกัน เพราะกรรมการบริหารพรรคทุกคนจะต้องมาคุยกัน เพราะเรื่องว่าจะส่งผู้สมัครหรือไม่เป็นเรื่องสำคัญ
ทั้งนี้ นายสมพงษ์ยังเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องตั้งกรรมการสอบผู้ที่ออกมาให้ข่าวก่อน และการให้ข่าวไม่ได้หมายความว่าจะส่งใคร แต่ส่วนตัวเห็นว่าการออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อจะเป็นการสร้างความสับสนให้พรรค เพราะคนข้างนอกมาว่าจะมีความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทย แต่ความจริงไม่มีอะไรเลย และตนก็ไม่ได้ไปงัดกับใคร ตนจึงต้องออกมาเป็นกลางแต่ต่อจากนี้ไปหากพรรคมีมติใดๆ จะชี้แจงให้ประชาชนทราบเอง