วันที่ 3 ธ.ค. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมาติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติด และปัญหาความยากจนในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู ณ ที่ว่าการอำเภอสุวรรณคูหา ตำบลสุวรรณคูหา อำเภอสุวรรณคูหา 

เมื่อคณะนายกฯ เดินทางถึงได้สักการะศาลหลักเมืองพระยาไชยเชษฐาธิราช และอนุสาวรีย์ไทยอาสาป้องกันชาติ จากนั้นไปรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด “หนองบัวลำภูโมเดล” พร้อมตรวจเยี่ยมกระบวนการบำบัดรักษาผู้ป่วยจิตเวช ณ โรงพยาบาลสุวรรณคูหา (Mini – ธัญญารักษ์) 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นไปตรวจเยี่ยมรถโมบายคลายเครียดเพื่อตรวจวัดระดับความเครียด โดยผลระดับการวัดพบมีความเครียดสูง ผลอยู่ที่ 150 มีสภาวะความเหนื่อยล้าของร่างกาย ผลความตื่นเต้นที่เด่นชัด ระบบประสาทอัตโนมัติทั้ง 2 อันทำงานไม่สมดุลกัน บ่งบอกว่ามีสภาวะความเครียด ความกดดัน หรือตื่นเต้นจากงานที่รัดตัวในช่วงนี้ โดยนายกรัฐมนตรี ได้หันไปพูดกับ นพ.ชลน่าน ว่า “แม่น” ก่อนจะหัวเราะเสียงดัง

ส่วนผลการตรวจสภาวะหลอดเลือดอยู่ในไทป์ 2 เมื่อเทียบกับอายุแล้วอยู่ในเกณฑ์ดี เทียบได้กับคนที่อายุ 30 ปี การไหลเวียนเลือดอยู่ในระดับดีมาก น่าจะเป็นเพราะออกกำลังกายเป็นประจำ สำหรับการตรวจความฟิตของร่างกาย เจ้าหน้าที่ระบุว่า “ไม่ค่อยฟิตเท่าไหร่นะคะ” ส่วนการปรับตัวต่อสภาวะความเครียดยังไม่สมดุล ไปในทิศทางที่ไม่ค่อยดี ซึ่งเจ้าหน้าที่แนะนำว่า ให้พักผ่อนและจัดการความเครียด

ขณะที่ นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมว่า เนื่องจาก นายกรัฐมนตรี มีภารกิจเยอะ จะไม่เครียดได้อย่างไร รวมถึงความเหนื่อยล้าของสภาพร่างกาย ทำให้นายกฯ ถึงกับขั้นหัวเราะเสียงดัง เปรียบเสมือนการยอมรับความจริง ซึ่งแพทย์ก็แนะนำให้นายกรัฐมนตรีนอนหลับพักผ่อนให้มากขึ้น จากนั้นนายกฯ มาตรวจเยี่ยมแถวกองกำลังชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่ปฏิบัติงานตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด “หนองบัวลำภูโมเดล” 

เศรษฐา กล่าวมอบนโยบาย ว่า เป็นเกียรติที่ตนในนามคณะรัฐมนตรี ได้มา ครม.สัญจรครั้งแรก ตั้งแต่เข้ามา ซึ่งเป็นความตั้งใจที่จะต้องมาจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นจังหวัดแรกเพราะมีรายได้ต่อหัวต่ำสุด พร้อมยืนยันมานี้ไม่ได้มาเพื่อสร้างภาพ แต่มาดูความเป็นอยู่ของประชาชน ที่มีปัญหาจากเรื่องเศรษฐกิจและปัญหาเรื่องยาเสพติด 

ทั้งนี้จากที่ได้ไปดูมาหลายที่ ก็เข้าใจถึงการบำบัดผู้ป่วยติดยาเสพติดในหลายพื้นที่ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขก็ทำงานได้เป็นอย่างดีโดยดูแลประชาชนผู้ติดยาจนหายแลภคืนสู่อ้อมกอดของครอบครัวได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และเป็นบุคคลที่มีคุณค่าต่อสังคมต่อไป