ไม่พบผลการค้นหา
รองนายกฯ ประเสริฐ หารือเอกอัครราชทูตรัสเซีย จากมรดกความสัมพันธ์ทางการทูต สานต่อความร่วมมือด้านดิจิทัล พร้อมจัดทำข้อตกลงเพื่อประสานประโยชน์ร่วมกันในอนาคต

วันนี้ (15 พฤษภาคม 2568) นายเยฟเกนี โตมีฮิน เอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทย เข้าพบหารือนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล และนวัตกรรม โดยทั้ง 2 ประเทศ พร้อมสานต่อความร่วมมือในระดับทวิภาคีและพหุภาคีให้ราบรื่น มีพลวัตและก้าวหน้า

ประเสริฐ รัสเซีย

รองนายกฯ ประเสริฐ กล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตสหพันธรัฐรัสเซียประจำประเทศไทย ที่ได้มาเยือนทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ พร้อมชื่นชมถึงความรู้ความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่เอกอัครราชทูตได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อปี พ.ศ.2562 ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งนี้ รัสเซียและไทย มีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันอย่างยาวนานและต่อเนื่องถึง 128 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2440

เอกอัครราชทูตฯ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสอันดี ที่ได้พบกับรองนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือร่วมกันในประเด็นต่างๆ โดยทางรัสเซียสนใจการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยีในประเทศไทย โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ การค้า เกษตรกรรม วัฒนธรรม และ การบริการสาธารณะ (Public Service) เนื่องจากภูมิประเทศของไทยและรัสเซีย มีความแตกต่างกัน ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตร และความร่วมมือในด้านต่างๆระหว่างกัน เช่น ด้านการท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม การศึกษา การพัฒนาบุคลากร ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการจัดตั้งกลไกความร่วมมือด้านต่างๆ เช่น คณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (Joint Commission on Bilateral Cooperation: JC)

ทั้งนี้ รัสเซียให้ความสำคัญกับภาคการบริการสาธารณะ โดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งกระทรวงพัฒนาดิจิทัล โทรคมนาคมและการสื่อสารมวลชนของรัสเซีย ได้มองหาความร่วมมือด้านดิจิทัลกับต่างประเทศ และ ในวันที่ 2 - 6 มิถุนายน 2568 รัสเซียจะจัดกิจกรรม Digital Global Forum และได้เชิญตัวแทนด้านดิจิทัลจากประเทศไทยเข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ด้วย

รองนายกฯ ประเสริฐ กล่าวว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก การเร่งเจรจาความตกลงการค้าเสรีกับประเทศเป้าหมาย รวมถึงเน้นสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล และ นวัตกรรม และในฐานะที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลในปัจจุบัน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนา 3 ด้าน ได้แก่

1.การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

2.ความมั่นคงทางไซเบอร์และการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์

3.การพัฒนาทักษะทางดิจิทัลของบุคลากรไทย

โดยไทยเห็นถึงศักยภาพในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของรัสเซีย ทั้งในด้าน Cyber Security การใช้แอปพลิเคชัน ในการช่วยอำนวยความสะดวกสำหรับการบริการประชาชน จึงมีความยินดีที่จะร่วมมือกับรัสเซียสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลร่วมกันในอนาคต พร้อมตอบรับคำเชิญในการเข้าร่วมกิจกรรม Digital Global Forum และได้เชิญชวนภาคเอกชนของรัสเซีย เข้ามาลงทุนใน Thailand Digital Valley ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

นอกจากนี้ ไทยและรัสเซียมุ่งเน้นในการจัดทำ MOU ร่วมกันในสาขาความร่วมมือที่หลากหลาย เช่น ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เทคโนโลยีดิจิทัล การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ รัฐบาลดิจิทัล และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาคอุตสาหกรรมการผลิต การบริการ และการเกษตร รวมทั้งความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของทั้งสองประเทศ โดยขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ในกระบวนการ การจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกระทรวงพัฒนาดิจิทัล โทรคมนาคมและการสื่อสารมวลชนของรัสเซีย กับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของไทย ว่าด้วยเรื่องความร่วมมือด้านการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ

ประเสริฐ รัสเซีย

รองนายกฯ ประเสริฐ ได้เน้นย้ำว่า ไทยและรัสเซีย มีความมุ่งมั่นในการประสานความร่วมมือระหว่างกันอย่างรอบด้าน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล โดยส่วนตัวชื่นชมเทคโนโลยีอวกาศของรัสเซียเป็นอย่างมาก ซึ่งจากความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของไทย พร้อมเป็นกลไกหนึ่งในการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านดิจิทัลร่วมกับทางรัสเซีย ตามเป้าหมายการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนไทย อย่างต่อเนื่องต่อไป