วันที่ 13 ก.ย. 2566 สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้ามาเนียบรัฐบาล เพื่อสักการะศาลพระภูมิและศาลตาศาลยาย ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาลก่อนประชุม ครม. นัดแรกอย่างเป็นทางการที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยเปิดเผยว่า ได้มีการขอพรให้ทำงานสำเร็จราบรื่น ส่วนที่เข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำเนียบรัฐบาลก่อนเข้ากระทรวงกลาโหมนั้น เนื่องจากที่นี่เป็นสถานที่จะต้องมาทำงานทุกวัน ซึ่งรัฐมนตรีทุกคนต้องมา แล้วตนเองจะเดินทางไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงกลาโหมในช่วงบ่ายวันนี้
เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้ายมีการอภิปรายโดยมุ่งเป้าไปที่งบลับในการประชุมแถลงนโยบาย โดยหลังจากนี้จะมีการมอบนโยบายกองทัพอย่างไร สุทิน กล่าวว่า นโยบายของกระทรวงมีการเขียนไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว หลังจากนี้ก็จะต้องไปดูในรายละเอียดอีกครั้ง ซึ่งประเด็นงบลับและจัดซืัอจัดจ้างก็อยู่ในนั้นด้วย
ส่วนนโยบายแรกที่จะทำทันทีของกระทรวงกลาโหมคืออะไร สุทิน กล่าวว่าเรื่องนี้จะไปพูดคุยในช่วงบ่ายหลังเข้าปฏิบัติงานที่กระทรวงกลาโหม โดยจะฟังการรายงานจากผู้บัญชาการเหล่าทัพด้วย เพราะสิ่งที่คิดว่าใช่อาจจะไม่ใช่หรือสิ่งที่ใช่อาจจะใช่ ดังนั้น จึงต้องฟังเหล่าทัพ เพื่อมาประกอบกับสิ่งที่เรารับรู้หรือไม่
เมื่อถามว่า ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะต้องมีการฟังความคิดเห็นจากเหล่าทัพหรือไม่ สุทิน กล่าวว่า จะต้องฟังจากทุกส่วน รวมถึงประชาชนด้วยทุกสาขาอาชีพ เชื่อว่าชุดผู้คุยของรัฐบาลก็ได้มีการหาคือกันบ้างแล้ว ซึ่งอาจเห็นไม่ตรงกัน 100% แต่เชื่อว่าเรื่องรัฐธรรมนูญทุกคนอยากทำใหม่
สุทิน ยังเปิดเผยด้วยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ตนเองจะมีการเสนอแต่งตั้ง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นเลขาธิการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยทั้ง 2 คน เป็นคนที่คุณสมบัติ รู้เรื่องกองทัพดี และอยากที่จะมาช่วยงาน รวมทั้งรู้เรื่องกองทัพเป็นอย่างดีและยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นเด็กฝากของ พล.อ.ประยุทธ์ แน่นอน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็พักผ่อนแล้ว
เมื่อถามว่า พล.อ.ณัฐพล ถูกจับตาว่าเป็นบุคคลทีช่วยงาน พล.อ.ประยุทธ์ มาโดยตลอด สุทิน กล่าวว่าทุกคนในกองทัพช่วยงานรัฐบาลเก่ามา ถ้าคิดเช่นนั้นใครก็เป็นลูกน้องของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และขณะนี้ตนเองก็ยังไม่ได้มีการติดต่อเพื่อขอเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร โดยขอทำงานก่อน ฉะนั้นคนจะมองว่าเดินสายพบเยอะไปแต่ถ้าหากมีปัญหาอะไรก็คงจะมีการหารือ พร้อมยืนยันว่า ตอนนี้เริ่มมีการปรับตัวกับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแต่ไม่ชินเท่าไหร่กับคำว่า "บิ๊กทิน" มาถึงอย่างไรก็ต้องอยู่กับบริบทใหม่ให้ได้
ส่วนที่มีการเผยแพร่เอกสารโดยมีชื่อ พายัพ ชินวัตร มาเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นั้น ตนเองยังไม่รู้ที่ไปที่มา โดยถามเจ้าตัวก็ยังไม่ทราบในเรื่องนี้ ซึ่งตนมองว่าการจะทำเอกสารพิมพ์ขึ้นมาและเผยแพร่ มันทำได้ง่าย แต่มีการแซวเล่นว่าหากมีอะไรก็จะมีการปรึกษา ส่วนตำแหน่งโฆษกกระทรวงกลาโหม จะมีการพูดคุยหลังจากชอบนโยบายเรียบร้อยแล้ว