ไม่พบผลการค้นหา
เทพไท ยื่นขออภัยโทษแล้ว ฝากน้องเผย จะเอาอย่างทักษิณ ใช้สิทธินักโทษทั่วไป

22 ก.ย. 2566 พงศ์สินธ์ เสนพงศ์ น้องชายของเทพไท เสนพงศ์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า เทพไท ใช้สิทธิ์ทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษ เหมือน ทักษิณ

"ผมได้ไปเยี่ยมคุณเทพไท ที่เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เมื่อวันก่อน คุณเทพไทได้แจ้งให้ผมทราบว่า เขาได้ทำหนังสือทูลเกล้า ขอพระราชทานอภัยโทษส่วนบุคคล เช่นเดียวกับคุณทักษิณแล้วโดยอธิบายเหตุผลให้ฟังว่า

เดิมทีตั้งแต่เข้าสู่เรือนจำวันแรก มีหลายคนแนะนำให้ทำหนังสือทูลเกล้า เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษส่วนบุคคล ซึ่งตอนนั้นคิดว่า เรามีโทษจำคุก เพียง 2 ปี ก็ควรยอมรับชะตากรรม ไม่อยากทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษ ให้เป็นที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท จึงไม่ได้ดำเนินการใดๆ นับตั้งแต่วันเริ่มเข้าสู่ประตูเรือนจำ

แต่เมื่อวันที่ 22 ส.ค. คุณทักษิณได้เดินทางกลับประเทศไทย โดยมีข้ออ้างว่า ต้องการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อต้องการรับโทษจำคุก 10 ปี ตามคำพิพากษาของศาลฎีกา แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ไม่ได้จำคุกจริง หลังจากอยู่ในเรือนจำได้ไม่เกิน 12 ชั่วโมง ก็ต้องย้ายไปอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 โดยอ้างแเหตุผลของการเจ็บป่วย และหลังจากนั้น ได้ทำหนังสือทูลเกล้าขออภัยโทษในวันที่ 31 สิงหาคม โดยเหตุผล 4 ข้อ คือ

1.ได้ทำคุณงามความดีให้กับประเทศชาติ

2.มีความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ

3.เคารพและยอมรับกระบวนการยุติธรรม

4.เป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว

ซึ่งถ้าหากพิจารณาจากเหตุผล ในการทูลเกล้าขอพระราชทานอภัยโทษ ของคุณทักษิณแล้ว คุณเทพไทกล่าวกับผมว่า เขามีคุณสมบัติในการขอพระราชทานอภัยโทษได้ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคุณทักษิณเลย กล่าวคือ

1.ได้เป็นสมาชิกสภาแทนราษฎรมา 4 สมัย ทำงานรับใช้ประชาชน และทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติมากมาย มาร่วม 20 ปี

2.มีความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ เป็นที่ประจักษ์ เคยเป็นพิธีกรรายการสายล่อฟ้า ปกป้องสถาบันฯ จากการจาบจ้วงของระบอบทักษิณ (ตามเหตุผลการยึดอำนาจ ของคณะรักษาความมั่นคงแห่งชาติ (คสช.) และ ไม่เคยต้องคดีตามมาตรา 112 แต่อย่างใด

3.ยอมรับกระบวนการยุติธรรมด้วยความเต็มใจ เมื่อถูกศาลฎีกาตัดสินให้รับโทษจำคุก 2 ปี ก็ไม่ได้หลบหนีคดีแต่อย่างใด

4.ตอนนี้อายุ 62 ปี เป็นผู้สูงวัยเช่นเดียวกันและมีโรคประจำตัวหลายโรค ระหว่างถูกจำคุกในเรือนจำ ต้องเบิกตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครศรีธรรมราช

5.ได้รับโทษจำคุกมาเป็นเวลา 14 เดือน กำลังจะเข้าข่ายเงื่อนไขการจำคุก 2 ใน 3 ของโทษตามคำพิพากษา แต่ไม่เคยได้รับการลดโทษเลย

6.ได้ต้องโทษจำคุก จากการกระทำผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ข้อหาจัดเลี้ยงและร่วมงานเลี้ยงกินข้าวกับกลุ่มกำนันผู้ใหญ ไม่ใช่การแจกเงินซื้อเสียง) แต่กรณีของคุณทักษิณ ต้องโทษคดีทุจริตต่อประเทศชาติ

ดังนั้นคุณเทพไท จึงได้สิทธิตามเงื่อนไขของกรมราชทัณฑ์ เหมือนกับนักโทษทั่วไป

สำหรับเรื่องนี้ ถ้าหากมีความคืบหน้าประการใด ผมจะนำมารายงานให้ได้รับทราบในโอกาสต่อไป