วันที่ 15 พ.ค. เป็นวันแรกที่ธนาคารอาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เริ่มโอนเงินเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ ซึ่งบรรยากาศที่ ธ.ก.ส.อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา พบว่ามีเกษตรกรจำนวนมากเดินทางเข้ามาปรับสมุดบัญชี พร้อมถอนเงินสด 5,000 บาท
นายองอาจ สุขสำราญ อายุ 62 เกษตรกรในอำเภอบางคล้า บอกว่า เกษตรกรในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากผลกระทบโควิด-19 ทำให้ราคาสินค้าเกษตรปรับลดลงอย่างมากจากช่วงปกติ โดยส่วนใหญ่เกษตกรในพื้นที่ทำนาข้าว สวนมะม่วง เลี้ยงกุ้งขาว และเลี้ยงปลา และยิ่งมีปัญหาภัยแล้งร่วมด้วยทำให้เกษตรกรไม่สามารถเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ได้ แม้ในพื้นที่จะติดเขตชลประทาน แต่ก็ประสบปัญหากับน้ำเค็มหนุน ส่งผลให้หลายครัวเรือนไม่มีรายได้เพียงพอ รายได้ไม่พอกับรายจ่ายเพราะค่าครองชีพสูง
“ขอบคุณที่รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งสิ่งที่อยากให้ช่วยเกษตรกรเพิ่มเติม คือ ให้ราคาพืชผลให้สูงหน่อย ตอนนี้ก็แย่ ปลา กุ้ง ถูก หรือผลไม้ ต้องให้สูงกว่านี้ เพราะข้าวของแพง ค่าแรงก็ถูก อยากจะเยียวยาอย่างน้อยวันละ 300 ก็ยังดี เดือนละ 9,000 บาท เพราะว่า 5,000 บาทน้อยไปหน่อย” นายองอาจ กล่าว
ขณะที่นางอนงค์ โภชนะ อายุ 60 ปี เกษตรกรผู้ปลูกข้าว บอกว่า เกษตรกรเดือดร้อนอย่างหนักจากผลกระทบสองเด้ง ซึ่งภัยแล้งนอกจากจะทำให้ไม่สามารถเพาะปลูกได้แล้ว ยังทำให้ไม่มีรายได้ เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ทุกคนต้องเก็บตัวอยู่บ้าน ไม่สามารถหาเงิน หาเงินจากช่องทางอื่นได้เลย แม้ว่ารัฐบาลจะจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพียงแต่อยากให้รัฐบาลตรวจสอบผู้ที่เดือนร้อนให้ได้รับการช่วยเหลือจริงๆ และทันเวลา เนื่องจากขณะนี้ทุกครัวเรือนกระทบหนักมาก
“เขาไม่ให้ไปไหนเลย จะไปทำอะไรก็ไม่ได้ จะไปทำกินตรงไหนก็ไม่ได้ ทำนามันได้แค่ครั้งสองครั้ง ถามว่าเงินตรงนั้นเราเป็นหนี้เป็นสินก็ต้องเป็นภาระ” นางอนงค์ กล่าว
ด้านนายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส.กล่าวว่า การจ่ายเงินเยียวยาเกษตรกรกกลุ่มแรกที่ผ่านเกณฑ์อยู่ที่ประมาณ 6.77 ล้านคน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 3.3 ล้านคนเป็นกลุ่มที่ลงทะเบียนก่อน 30 เม.ย.กลุ่มนี้จะได้รับเงินก่อน โดยเบื้องต้นธนาคารจะทำการโอนเงินเข้าบัญชีวันละประมาณ 1 ล้านราย ส่วนอีก 3.4 ล้านคน กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ยืนยันว่าจะสามารถโอนเงินให้ครบทั้งหมด ภายใน 26 พ.ค.นี้
ส่วนเกษตรกรกลุ่มที่ 2 ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรและการขึ้นทะเบียนใหม่ ธ.ก.ส.จะเร่งโอนเงินเข้าบัญชีต่อไป โดยมีเป้าหมายเกษตรไม่เกิน 10 ล้านราย วงเงินไม่เกิน 150,000 ล้านบาท ส่วนกรณีที่พบข้อมูลซ้ำซ้อน โดยเฉพาะกลุ่มข้าราชการที่ยังไม่เกษียณแต่มีอาชีพเสริมเป็นเกษตรกร คาดว่าภายในวันที่ 19 พ.ค.นี้ จะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติว่าจะได้หรือไม่ได้อย่างไร
“ต้องรอมติคณะรัฐมนตรี จริงๆ แล้วรัฐบาลอยากจะช่วยทุกคน ไม่ได้หมายความว่าข้าราชการที่ไปขึ้นทะเบียนแจ้งเท็จไม่ใช่ เพราะทางขั้นตอนของกระทรวงเกษตร เขาตรวจสอบการเป็นเกษตรกรจริงๆ เพียงแต่ว่า วันนี้เป็นเงินช่วยเหลือพิเศษ ก็อยู่ที่ทางคณะรัฐมนตรีว่าวันนี้ได้รับเงินเดือนประจำทางราชการอยู่แล้ว จะช่วยกลุ่มนี้เข้าข่ายหรือไหม” นายอภิรมณ์ กล่าว
ผู้จัดการ ธ.ก.ส.ยืนยันว่า ภาพรวมการโอนเงินให้กับเกษตรกร 1 ล้านรายในวันแรก และการเปิดให้บริการประชาชนผ่านสาขาของ ธ.ก.ส.กว่า 1,200 สาขาทั่วประเทศ ยังไม่พบปัญหา มีเพียงการพบบัญชีธนาคารไม่มีการเคลื่อนไหว ซึ่งจะมีการประสานให้ปรับปรุง หรือแจ้งแก้ไขข้อมูลเพื่อรับการโอนเงินเยียวยา 5,000 บาทต่อไป ส่วนการตรวจสอบสิทธิ และตรวจสอบเงินเข้าบัญชีธนาคาร ยังแนะนำเกษตรกรให้ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์เยียวยาเกษตรกร หรือ แอปพลิเคชันของ ธ.ก.ส.เพื่อลดการเดินทางมาที่สาขา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :