นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ระบุในหัวข้อ “ขับเคลื่อนอาเซียนโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ท่ามกลางภูมิทัศน์การเมืองโลกแบบหลายขั้วมหาอำนาจ” ในประเด็นปัญหาใหญ่ที่ท้าทายอาเซียน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาขยะทะเล ขยะอิเล็กทรอนิกส์ หมอกควันมลพิษ ไปจนถึงแรงงานข้ามชาติและผู้อพยพลี้ภัย ซึ่งล้วนเป็นปัญหาระดับข้ามพรมแดนที่จำต้องอาศัยการร่วมมือระหว่างประเทศที่เข้มแข็ง โดยชี้ให้เห็นว่าภายใต้บริบทการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ มีแต่การร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งในภูมิภาคเท่านั้นที่จะทำให้อาเซียนพิทักษ์ผลประโยชน์ของประชาชนในประชาคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายธนาธรยังเรียกร้องให้อาเซียนก้าวข้ามหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในของชาติสมาชิก ไปสู่การช่วยเหลือและร่วมมือกัน ตรวจสอบกันและกันเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งภูมิภาค เพราะที่ผ่านมา หลักการดังกล่าวทำให้เกิดการเพิกเฉยต่อการละเมิดสิทธิเสรีภาพพลเมือง และยังทำให้การแก้ปัญหาไม่สามารถทำได้อย่างยั่งยืน เช่น ปัญหาผู้ลี้ภัยโรฮิงญา จะไม่สามารถแก้ได้อย่างถาวร หากชาติอาเซียนไม่ช่วยรัฐบาลเมียนมาแก้ปัญหาที่ต้นตอ ยุติการเลือกปฏิบัติและความรุนแรงต่อชาวโรฮิงญา และการันตีสิทธิพลเมืองให้พวกเขาสามารถกลับบ้านเกิดได้อย่างปลอดภัย
ขณะเดียวกัน ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และขยะทะเล รวมถึงหมอกควันพิษข้ามประเทศ ก็จะแก้ไขไม่ได้หากอาเซียนไม่ร่วมมือกันผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎหมายภายในเพื่อควบคุมการปล่อยมลภาวะทางอากาศและทางน้ำ และสร้างมาตรฐานด้านการควบคุมมลภาวะร่วมกัน เพื่อการันตีคุณภาพชีวิตที่ดีของขาวอาเซียนทั้งภูมิภาค
นายธนาธร ระบุว่า สำหรับตนเอง ภารกิจสำคัญที่สุดของไทยในฐานะประธานอาเซียน ประการแรก ก็คือการทำให้ความร่วมมือมีความเข้มแข็งเพื่อรักษาสมดุลในความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจ เพื่อให้อาเซียนพิทักษ์ผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนทั้งประชาคมได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ประการที่สอง คือการพลิกฟื้นอาเซียนให้เป็นประชาคมที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังทั้งทางเศรษฐกิจและสิทธิเสรีภาพของพลเมือง ช่วยเหลือตรวจสอบกันและกันโดยก้าวข้ามหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายใน ไปสู่การร่วมกันยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในแต่ละประเทศ และภารกิจประการสำคัญที่สุด คือการสถาปนาความเชื่อมั่นที่ว่า ประชาธิปไตยคือหนทางไปสู่ความกินดีอยู่ดีของประชาชน เพราะนี่คือวิถีทางเดียวที่จะปลดปล่อยศักยภาพของมนุษย์ และนำมาซึ่งความมั่นคงอย่างยั่งยืนของชาวอาเซียนทั้งภูมิภาค
ข่าวที่เกี่ยวข้อง