ที่โรงแรมเซนทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซนเตอร์ แจ้งวัฒนะ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ร่วมกับ 36 สถานศึกษาสายอาชีพทั่วประเทศประกาศผลการคัดเลือกนักเรียนทีได้รับทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงปีการศึกษา 2562 และการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อร่วมกัน ทำความเข้าใจ ซักซ้อมกระบวนการดำเนินโครงการ และเตรียมวางแผนชีวิตรอบด้านให้นักเรียนทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง โดยมีผู้บริหารและ อาจารย์ จาก 36 สถานศึกษาสายอาชีพทั่วประเทศ เข้าร่วม
นางสาวธันว์ธิดา วงศ์ประสงค์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมความร่วมมือนวัตกรรมและทุนการศึกษา กสศ. เปิดเผยว่า กสศ. ได้ ประกาศรายชื่อนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงรวมทั้งสิ้น 2,107 คน โดยแบ่งเป็นทุนปวช. ต่อเนื่อง ปวส. จำนวน 947คน ทุนปวส.จำนวน 1,160 คน เป็นรายชื่อที่ร่วมกับสถานศึกษาสายอาชีพ 36 แห่ง ใน 26 จังหวัดจากทุกภูมิภาคที่ผ่านการคัดกรองความยากจน และกระบวนการคัดเลือกโอกาส ผ่านระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาหรือiSEE จากที่มียอดผู้สมัครรวมทั้งสิ้น 2,442 คน จาก 69 จังหวัด โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อนักเรียนที่ได้รับทุนได้ที่ www.eef.or.th
นางสาวธันว์ธิดา กล่าวว่า ทุนนี้มุ่งสร้างโอกาสทางศึกษาให้แก่นักเรียนที่มีฐานะยากจน 20% ล่างสุดของประเทศ และส่งเสริมให้เรียนต่อสายอาชีพชั้นสูง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 นักเรียนทุนจะมีโอกาสได้เข้าศึกษาในสาขาที่ได้มีการพิจารณาแล้วว่าเป็นสาขาที่ตอบโจทย์ความต้องการตลาดแรงงานระดับประเทศและท้องถิ่นกว่า 40 สาขา เช่น โลจิสติกส์ เมคคาทรอนิกส์และหุ่นยนต์ เกษตรนวัตกรรม เทคโนโลยีการอาหาร
“ทุนดังกล่าว กสศ.ได้จัดงบประมาณเป็นค่าเทอมในอัตราประหยัดและค่าใช้จ่ายส่วนตัวตลอดปีการศึกษา ระดับ ปวช.จำนวน 6,500 บาทต่อเดือน และปวส. จำนวน 7,500 บาทต่อเดือน รวมถึงส่งเสริมโอกาสการมีงานทำของนักศึกษาผู้รับทุนร่วมกับสถานประกอบการ หากปีนี้ โครงการประสบความสำเร็จด้วยดี ปีการศึกษา 2563 กสศ. ตั้งเป้าหมายงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลจะเพิ่มโอกาสให้นักเรียนทุนเป็น 3,000 คน” นางสาวธันว์ธิดา กล่าว
ด้านนายสุทิน แก้วพนา กรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาและผู้ช่วยปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า นอกเหนือจากการช่วยเหลือด้านเงินทุนแล้วทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องร่วมกันหามาตรการช่วยเหลือเด็กนักเรียนกลุ่มยากจนพิเศษให้เรียนจบหลักสูตร เนื่องจากนักเรียนที่มาจากครอบครัวยากจนเป็นกลุ่มที่ออกจากการเรียนกลางคันมากที่สุด เด็กกลุ่มนี้เคยอยู่ในพื้นที่ซึ่งขาดโอกาส เมื่อต้องย้ายไปอยู่ในสถานศึกษาการศึกษาที่อยู่ในเมือง จึงต้องปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ทั้งด้านการเรียน และทักษะชีวิต จึงต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการจัดสวัสดิการ อาหาร ที่พักที่เหมาะสม นอกจากนี้สถานศึกษาควรหาวิธีเชื่อมโยงครอบครัวกับนักเรียนที่ได้รับทุนอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นแรงเสริมช่วยให้เด็กปรับตัวได้ในปีแรก และสามารถเรียนได้อย่างมีความสุข
นางสาวชฏาพร หมินหมูด นักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง สาขาการท่องเที่ยว วิทยาลัยการอาชีพอ่าวลึก จ.กระบี่ กล่าวว่า ถ้าไม่มีทุนนี้ ก็อาจจะต้องไปทำงานตามร้านอาหารเพื่อเก็บเงินอีกปีสองปีมาเรียนใหม่ ระหว่างเรียน จะวางแผนการใช้จ่ายทุนให้ดีที่สุด และประหยัดอดออมเงินทุกบาทให้เกิดประโยชน์ แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ค่าเช่าบ้าน เก็บไว้เป็นเงินออม เพื่อเรียนต่อในอนาคต นอกจากแม่ที่ดีใจกับทุนนี้ที่ได้รับแล้ว เชื่อว่าพ่อที่เสียชีวิตไปแล้วจะมองเห็นและดีใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
นางสาวนัฐศิกานต์ เพ็งจันทร์ นักศึกษาที่ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง สาขาพาณิชยกรรมและบริการฐานวิทยาศาสตร์(เทคโนโลยีการท่องเที่ยว) วิทยาลัยเทคนิคพังงา กล่าวว่า วันเปิดเรียนวันแรก เต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้น สนุก ได้เพื่อนใหม่หลายคน มีการรับน้องจากรุ่นพี่ ได้ปรับพื้นฐาน อาจารย์ช่วยแนะแนวสอนความรู้เบื้องต้น ทั้งนี้ได้วางแผนการใช้เงินทุนอย่างประหยัด และเก็บออม เพื่อไว้เป็นทุนศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี และจะตั้งใจเรียน เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในภายภาคหน้า
“ครอบครัว มีพี่น้อง4คน พ่อทำงานคนเดียวหาเลี้ยงคนทั้งบ้าน ค่าใช้จ่ายจึงไม่เพียงพอ ช่วงที่ใกล้จะจบม.3ที่โรงเรียนบ้านบางกลับ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ก็เคยถามตัวเองมาตลอดว่าจะเอาเงินที่ไหนเรียนต่อจึงต้องขอบคุณโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพ ของกสศ.ที่ทำให้มีโอกาสและมีกำลังใจที่ได้เรียนต่อ”นางสาวนัฐศิกานต์ กล่าว
นางสาวสินใจ สาธิมา วิทยาลัยเทคนิคอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า เมื่อรู้ว่าได้รับทุน ดีใจมาก และคลายความกังวลปัญหาเรื่องเงินในการศึกษาต่อได้ทั้งหมด อยากขอบคุณ กสศ.ที่เห็นความสำคัญของการศึกษาและมอบทุนนี้ให้เด็กด้อยโอกาส ซึ่งตอนแรกไม่คิดว่าจะได้ เพราะเชื่อว่ามีคนมากมายที่ต้องการทุนนี้ เมื่อได้รับจึงรู้สึกเหมือนฝัน มันคือความหวังเดียวของเด็กต่างจังหวัดที่จะได้เรียนต่อ
“พอรู้ข่าวก็รีบไปบอกพ่อกับแม่ ทุกคนดีใจร้องไห้ไปกับหนู แล้วบอกว่าให้ตั้งใจเรียน เพราะโอกาสไม่ได้มีมาง่ายๆ จะวางแผนการใช้เงินทุนให้ประหยัดและอดออม แบ่งเป็น 2 ส่วน เก็บไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน และเก็บไว้เผื่อฉุกเฉิน เน้นเรื่องเรียนเป็นหลัก ทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด ในอนาคตจะต่อยอดเพื่อหารายได้เพิ่มมาเป็นทุนในการศึกษา ส่วนเมื่อเวลามีปัญหาระหว่างเรียนก็จะค่อยๆแก้ไขปัญหาทีละจุด แก้ให้ตรงจุด ดูต้นเหตุว่าปัญหาเกิดจากอะไร นำโอกาสที่ได้รับไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด”นางสาวสินใจ กล่าว