วันที่ 24 พ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินรัฐมนตรีในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2566
โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แจ้งบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินกรณีพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมกับ นภาพร จันทร์โอชา คู่สมรส โดยมีทรัพย์สินรวม 130,191,162 บาท ไม่มีหนี้สิน
แบ่งเป็นทรัพย์สินของ พล.อ.ประยุทธ์ 98,663,683 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 7 บัญชี 13,773,881 บาทเงินลงทุน 64,102,742 บาท ในจำนวนนี้เป็นการลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นพลัส (ชนิดหน่วยลงทุน A) มูลค่า 43,530,023 บาท ที่เหลือเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นพลัส (ชนิดหน่วยลงทุน B) กองทุนเปิด ทรัสต์ เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์อัลไล ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา
พร้อมมีที่ดิน 2 แปลงใน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งได้รับมรดกมาเมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2546 และที่ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ รวม 3,256,060 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1.8 ล้านบาท โดยเป็นบ้านในเขตกรุงเทพฯ ที่ถือกรรมสิทธิ์ร่วมกับนางนภาพร ยานพาหนะ เป็นรถยนต์ 4 คัน ประกอบด้วย Ford Ranger Mercedes Benz , Porsche Panamera ,Toyota Alphard มูลค่ารวม10,720,000 บาททรัพย์สินอื่น 5,011,000บาท แบ่งเป็นแหวนและกำไลขอมือ 10 วง 735,000 บาทนาฬิกา 9 เรือน 3 ล้านบาท สร้อยคอทองคำพร้อมพระ 6 เส้น 820,000 บาท อาวุธปืน 9 กระบอก 253,000 บาท จักรยาน 2 คัน 203,000 บาท
นอกจากนี้ แจ้งมีรายได้ต่อปีโดยประมาณ 2,849,888 บาทเป็นเงินเดือน และเงินประจำตำแหน่ง 1,507,080 บาท เงินบำนาญ 898,176 บาทเบี้ยประชุม 300,000 บาทเงินเชิดชูเกียรติกรณีได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ 72,000 บาท มีรายได้จากดอกเบี้ยเงินฝากปี 2565 รวม45,314 บาทเงินปันผลจากกองทุนปี 2565 รวม27,318 บาท และมีรายจ่ายต่อปีโดยประมาณ 2,263,814 บาทแบ่งเป็นค่าใช้จ่าย 1.8 ล้านบาทจ่ายภาษีเงินได้ปี 2565 รวม 343,814 บาทเงินบริจาค 120,000 บาท
ส่วน นภาพร ซึ่งเป็นข้าราชการบำนาญ และดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริการมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในพระบรมราชูปถัมภ์ ,ประธานกรรมการส่งเสริมกิจการสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา มีทรัพย์สินรวม 31,527,479 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 5 บัญชี 10,415,479 บาทที่ดิน 4 แปลงในอ.สันป่าตองจ.เชียงใหม่ เขตพญาไท กรุงเทพฯและอ.ปากช่องจ.นครราชสีมารวม 5,892,000 บาทโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1.8 ล้านบาท ยานพาหนะ 1.2 ล้านบาท เป็น Toyota Alphard
ทรัพย์สินอื่น 12 ,220,000 บาท เป็นชุดเครื่องประดับแหวนต่างหูและสร้อย 25 ชุดมูลค่า 10,820,000 บาทนาฬิกา 4 เรือน 1.4 ล้านบาท และแจ้งมีรายได้ต่อปีประมาณ 453,351 บาท แบ่งเป็นเงินบำนาญ 313,724 บาทเบี้ยประชุม 100,000 บาทดอกเบี้ยเงินฝากปี 65 รวม 39,627 บาท มีรายจ่ายต่อปีรวม 400,000 บาทเป็นค่าใช้จ่ายทั่วไป 300,000 บาทและเงินบริจาค 100,000 บาท
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ และ นภาพร เคยแจ้งบัญชีทรัพย์สินเมื่อคราวเข้ารับตำแหน่งนายกฯ เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2557 ว่ามีทรัพย์สินรวม 128,664,535 บาท และมีหนี้สินรวม 654,745 บาท
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ระบุสถานะโสด แจ้งบัญชีทรัพย์สินกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ระบุมีทรัพย์สินรวม 89,214,637 บาท มีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี ธนาคารไทยธนชาตรวม 757.26 บาท ส่วนทรัพย์สินแบ่งเป็นเงินฝาก 9 บัญชี 43,505,397 บาท เงินลงทุนใน KTB, TU , กองทุนธนาคารไทยพาณิชย์รวม 4,879,739 บาท
พร้อมมีที่ดิน 3 แปลง 17 ล้านบาท แบ่งเป็นที่ดินใน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มูลค่า 7 ล้านบาท ที่ดินเขตมีนบุรีกรุงเทพฯ รวม 10 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง เป็นบ้านย่านเขตคลองสามวากรุงเทพฯ 10 ล้านบาท ยานพาหนะรวม5 คัน 13.6 ล้านบาท เป็นรถยนต์ Lexus 2 คันมูลค่า7,000,000 บาท รถยนต์ Jaguar มูลค่า 4 ล้านบาทรถยนต์ Mercedes Benz มูลค่า 2.5 ล้านบาท รถยนต์ Volkswagen มูลค่า 100,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 229,500 บาท ประกอบด้วยแหวน 9 วง นาฬิกา TW STEEL 1 เรือน ปืน COLT,SIG SAUER,SMITH WESSON รวม 3 กระบอก
นอกจากนี้แจ้งมีรายได้ต่อปีรวม 2,348,316 บาท แบ่งเป็นเงินเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ 762,540 บาทเงินช่วยค่าครองชีพ 146,736 บาท เงินเดือนรองนายกรัฐมนตรี 893,040 บาท เงินประจำตำแหน่ง 546,000 บาท และไม่แจ้งมีค่าใช้จ่ายต่อปีประมาณเท่าไหร่