ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ออกนั่งพิจารณาคดี เพื่อไต่สวน นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. จังหวัดราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ และนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะจำเลย คดีที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง เรื่องการทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร ของการเคหะแห่งชาติ คดีหมายเลขดำ อม.42/2561 และ 102/2561 

โดยนายวัฒนา ได้ยื่นคำร้องต่อศาลให้พิจารณากรณีที่ น.ส.ปารีณา นำเอาคำเบิกความพยานไปโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งอาจขัดคำสั่งศาล ศาลจึงให้นัดไต่สวนคำร้องในวันนี้

เมื่อเข้าสู่การพิจารณาคดี องค์คณะเรียกให้คู่ความ ทั้งสองเข้ามาพูดคุยไกล่เกลี่ย ซึ่งใช้เวลา ประมาณ 30 นาที แต่การพูดคุยไม่เป็นผล ศาลจึงนัดไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม เวลา 9.30 น. โดยเรียกพยาน ฝ่ายละ 1 ปาก 

นางสาวปวีณา ขอให้ศาลแต่งตั้งทนายให้ ซึ่งทางทนายความและนางสาวปารีณา จะนัดพบเพื่อพูดคุย ถึงแนวทาง การพิจารณาคดีในวันที่ 29 พฤศจิกายน

หลังการพิจารณานายวัฒนาเปิดเผยว่า ยังไม่สามารถตกลงกันได้ จึงต้องนัดไต่สวนเพิ่มเติมตามวันและเวลาดังกล่าวพร้อมขออนุมัติคัดรายงานจากศาล ส่วนจะเรียกพยานเพิ่มเติมหรือไม่ จะพิจารณาหลังจากไต่สวนในวันที่ 2 ธันวาคมแล้ว 

ซึ่งนายวัฒนา อาจเรียกพยานผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติม เนื่องจากนางสาวปรีณายอมรับว่า ได้โพสต์ ข้อความเพียง 1 ข้อความ ซึ่งข้อเท็จจริงอาจเป็น 2 ข้อความและมี 1 ข้อความที่ถูกลบไป ทั้งนี้ไม่ขอลงรายละเอียดในคดี เพราะอาจละเมิด ข้อกำหนดของศาล พร้อมยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้เป็นการยื่นฟ้องตามสิทธิ์

ส่วนคดีหลักที่ถูกกล่าวหาเรื่องทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรนั้น ศาลนัดไต่สวนอีกครั้งวันที่ 6 พฤศจิกายน โดยจะสืบพยานฝ่ายโจทก์อีก 1 ครั้งจากนั้นจะเป็นการ สืบพยานจำเลย ซึ่งยื่นไว้จำนวน 14 คน 8 นัดโดยจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน 

ด้านนางสาวปารีณา ยืนยันว่าการโพสต์เฟซบุ๊ก ไม่เคยพาดพิงถึงนายวัฒนา หรือพูดถึงคดีบ้านเอื้ออาทร การโพสต์ข้อความเป็นการชื่นชม การทำงานของพลเอกประยุทธ์ที่ไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น และทำงานอย่างตรงไปตรงมา ยืนยันไม่ได้ติดตามคดีดังกล่าวเพราะเป็นคดีที่ยืดเยื้อ 

สำหรับกระบวนการไต่สวนในวันที่ 2 ธันวาคมได้ร้องขอทนายต่อศาลโดยให้ศาลเป็นผู้แต่งตั้งทนายให้ นางสาวปารีณาย้ำว่า คดีที่เกิดขึ้นมองเจตนาว่านายวัฒนา ต้องการกลั่นแกล้งทางการเมือง และไม่ตอบคำถามว่ากังวลกับคดีที่เกิดขึ้นหรือไม่แต่จะสู้ตามกระบวนการ