ศุภลักษณ์ พาฬอนุรักษ์ โฆษกกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า บริษัทผู้รับสัมปทานปิโตรเลียมในอ่าวไทยทุกบริษัท มีแผนเตรียมความพร้อมรับมือในกรณีหากพายุโซนร้อน 'โนอึล' เคลื่อนตัวเข้าสู่บริเวณอ่าวไทย โดยขณะนี้สถานการณ์ยังอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง และไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทยแต่อย่างใด
ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา มีประกาศแจ้งเตือนกรณีพายุโซนร้อน 'โนอึล' บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ได้เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย โดยเคลื่อนที่ขึ้นฝั่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตอนกลาง และจะเคลื่อนเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย ระหว่างวันที่ 18-20 ก.ย. 2563 ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทย มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง รวมทั้งส่งผลให้อ่าวไทยมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศได้ประสานข้อมูล และติดตามร่วมกับบริษัทผู้ประกอบกิจการปิโตรเลียมในทะเลอ่าวไทยอย่างใกล้ชิด ซึ่งการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์พายุต่างๆ นั้น อยู่ในแผนรองรับสภาวะวิกฤติการประกอบกิจการปิโตรเลียมในทะเลของบริษัทผู้รับสัมปทาน โดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติได้แจ้งให้บริษัทฯ ติดตามสถานะของพายุตลอด 24 ชั่วโมง และรายงานต่อกรมฯอย่างต่อเนื่อง
"การประเมินสถานการณ์ความรุนแรงของพายุจะแบ่งเป็น 4 ระดับตามสี โดยเรียงลำดับจากระดับความเสี่ยงน้อยไปจนถึงความเสี่ยงมากที่สุด ประกอบด้วย สีเขียว สีเหลือง สีส้ม และสีแดง โดยสถานการณ์ปัจจุบัน แหล่งผลิตปิโตรเลียมทุกแหล่งในอ่าวไทยมีระดับความเสี่ยงอยู่ในระดับสีเขียว ซึ่งยังไม่มีความรุนแรงถึงขั้นที่ต้องอพยพพนักงานจากแท่นผลิตปิโตรเลียมขึ้นฝั่ง ทั้งนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้กำชับให้บริษัทผู้รับสัมปทานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือในกรณีที่พายุทวีความรุนแรงขึ้น โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยของบุคลากรบนแท่นผลิต และการผลิตปิโตรเลียมอย่างต่อเนื่องเป็นสำคัญ" ศุภลักษณ์ กล่าว