ไม่พบผลการค้นหา
"มนัญญา" เรียกร้อง กก.วัตถุอันตราย ควรจะโหวตเปิดเผย เพื่อสาธารณชน จะได้ทราบเหตุผลรายบุคคลในการลงมติ ให้ใช้ 3 สารพิษ คือ ไกลโฟเซต คลอร์ไพริฟอส และพาราควอต ต่อไปได้ ถามนักข่าว สงสารตนไหม ทำอยู่คนเดียว เป็นรัฐมนตรียังต้องมาหาเอกสารเอง

ก่อนการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ในวันที่ 18 ก.ย. 2562 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า ในส่วนของหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่กำกับดูแลอยู่นั้น จะมีการเสนอเกี่ยวกับเรื่องสารเคมีพิษภาคการเกษตร ซึ่งขณะนี้เอกสารในส่วนนี้ได้เตรียมเอาไว้เรียบร้อยหมดแล้ว ก็จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม ซึ่งตอนนี้ก็อาจจะพูดลำบาก 

ส่วนการลงคะแนนที่ผ่านมาเป็นการลงคะแนนลับ แต่ในครั้งนี้คิดว่าควรจะ เป็นการลงคะแนนโดยเปิดเผยหรือไม่ จะได้รู้ว่ากรรมการจากส่วนราชการใดมีความคิดเห็นอย่างไร เพราะเป็นผลประโยชน์ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ นั้น รมช.เกษตรฯ กล่าวว่า จริงๆ เราอยากให้เป็นการลงมติแบบเปิดเผย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่ที่ตัวบทกฎหมาย ว่ามีข้อจำกัดอะไรบ้าง แต่ถ้ามันไม่มีข้อจำกัด ก็น่าจะเสนอชื่อออกมาเลย 

“ความจริงคนที่ทำก็ต้องรับ ถ้าเกิดเขาต้องการเอาสารพิษ 3 ตัวนี้ไว้ เขาก็ต้องรู้ว่าเอาไว้เพราะอะไร มันมีส่วนดีอย่างไร ก็ต้องออกมาบอกพี่น้องประชาชน เพื่อชี้แจงให้กระจ่างชัด ต้องออกมายอมรับในสิ่งที่เขาทำใช่ไหมคะ” รมช.เกษตร กล่าว 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึง คณะกรรมการวัตถุอันตราย อยู่ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม แต่ยังไม่เห็นบทบาทของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ไม่ออกมาพูดอะไรบ้างเลย นางสาวมนัญญา ถึงกับอึ้งไป และกล่าวทิ้งท้ายว่า “สงสารพี่ไหมล่ะ ต้องทำอยู่คนเดียว เอกสารยังต้องมาตามเอง นี่ขนาดเป็นรัฐมนตรีนะ”

โดยมีรายงานว่า วานนี้ (16 ก.ย.) นางสาวมนัญญา ได้เดินทางไปที่ สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร กรมวิชาการเกษตร เพื่อทวงถามเอกสารสต๊อกสารพิษ ในโกดังสินค้าแต่ละแห่งทั่วประเทศไทยว่าขณะนี้มีเหลือจำนวนเท่าใดบ้าง เพราะได้สอบถามเรื่องนี้เป็นระยะเวลานานพอสมควร แต่ไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่จะให้คำตอบได้ จึงต้องเดินทางมาตรวจสอบด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลด้วยว่า การประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย ในเรื่องการแบนสารพิษ 3 ตัว คือ ไกลโฟเซต คลอร์ไพริฟอส และพาราควอต ปรากฏว่าคณะกรรมการชุดนี้มีทั้งหมด 29 คน มีการลงมติแบบลับทุกครั้ง และมักจะมีกรรมการขาดประชุม โดยผลการโหวตครั้งล่าสุด ฝ่ายที่เห็นด้วยกับการให้ใช้สารพิษต่อไปนั้น จะชนะไปด้วยคะแนน 16 ต่อ 5 เสียง แต่ถ้าหากให้โหวตโดยเปิดเผย และสาธารณชนรู้ชื่อ-นามสกุล คาดว่าคะแนนอาจจะกลับกันแบบพลิกหน้ามือ เป็นหลังมือ