ไม่พบผลการค้นหา
'สุรพงษ์' รมช.คมนาคม เปิดงาน 'สงกรานต์ปลอดภัยร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน' สั่งทุกหน่วยงานยกระดับความปลอดภัยขั้นสุด ตรวจแอลกอฮอล์ สารเสพติดพนักงานทุกคน

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดงาน “สงกรานต์ปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุทางถนน” จัดโดย มูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมกับ กระทรวงคมนาคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ภาคเอกชน โดยมี นางสาวณภัทรา กมลรักษา เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด นายชัชวาล พรอมรธรรม รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด ผู้บริหารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ นายแพทย์พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เหยื่อเมาแล้วขับ ผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุจราจร ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสื่อมวลชน ร่วมงาน ในวันที่ 10 เมษายน 2568 ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลที่ผ่านมา แม้ว่าหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน จะร่วมกันรณรงค์ป้องกันอย่างเต็มที่ แต่ยังมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บยังคงสูงอยู่ โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตถึง 287 ราย บาดเจ็บ 2,060 ราย นับเป็นความสูญเสียอย่างมหาศาลของประเทศ สาเหตุสำคัญมาจากพฤติกรรมในการเมาแล้วขับ โทรแล้วขับ ง่วงแล้วขับ ขับรถเร็ว ขับรถฝ่าฝืนกฎจราจร กระทรวงคมนาคมมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงได้กำชับให้ทุกหน่วยงานจัดการระบบขนส่งมวลชนและบริการขนส่งสาธารณะทุกระบบให้เพียงพอ มีความปลอดภัย โดยให้เน้นที่ผู้ขับขี่รถโดยสารและผู้ให้บริการต้องมีความพร้อมเพื่อให้บริการได้อย่างปลอดภัย ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมควบคุมดูแลด้านความปลอดภัย และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกมิติ เพื่อสร้างความมั่นใจด้านการคมนาคมให้กับประชาชน ตามที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้เน้นย้ำ

กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานในสังกัด ได้เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกและปลอดภัย ระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2568 เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนสู่ภูมิภาคต่าง ๆ ภายใต้หัวข้อรณรงค์ “เทศกาลความสุข ทุกที่ทั่วไทย เดินทางสะดวก ปลอดภัย บนโครงข่ายคมนาคม” โดยเฉพาะการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ได้สั่งการให้เข้มงวดเรื่องความปลอดภัยอย่างสูงที่สุด มีการยกระดับมาตรการอย่างเคร่งครัดทั้งความพร้อมของสถานีรถโดยสาร ตัวรถ รวมทั้งตรวจตราสังเกตสัมภาระที่เป็นวัสดุไวไฟ อาจก่อให้เกิดอันตรายในการเดินทาง

ผมได้เน้นย้ำให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลการปฏิบัติงานของรถสาธารณะ ให้กำชับผู้ประกอบการและพนักงานขับรถสาธารณะทุกชนิด ห้ามฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้โดยสารอย่างเด็ดขาด ยกตัวอย่างเช่น การปฏิเสธผู้โดยสาร ไม่ส่งผู้โดยสารตามจุดหมายปลายทางที่กำหนดไว้ ไม่คิดค่าโดยสารตามมิเตอร์ เรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด และผู้ขับขี่ดื่มสุราหรือของมึนเมาขณะขับรถ เป็นต้น หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาด และอาจถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ ต้องมีการควบคุมความเร็วของรถโดยสาร ไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง จัดพนักงานขับรถ 2 คน ในเส้นทางสายยาวที่ใช้เวลาเดินทางเกิน 4 ชั่วโมง และขอความร่วมมือผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดการเดินทางด้วย หากท่านใดพบปัญหาจากการใช้บริการรถสาธารณะ สามารถแจ้งหรือร้องเรียนได้ที่ สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง

ในส่วนของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 เพิ่มขึ้นจาก ปี 2567 ประมาณ 15% โดยเที่ยวไปวันที่ 9 - 12 เมษายน 2568 คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยวันละ 120,000 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส. รถร่วม รถตู้) เฉลี่ยวันละ 5,000 เที่ยว ส่วนเที่ยวกลับวันที่ 15 - 17 เมษายน 2568 คาดว่ามีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยวันละ 100,000 คน ใช้รถโดยสารประมาณวันละ 4,800 เที่ยว โดย บขส. ได้เตรียมรถเสริม (รถทะเบียน 30) ประมาณ 1,200 คัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้เพียงพอต่อความต้องการในการเดินทางและไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

นอกจากนี้ บขส. ได้ประสานความร่วมมือกับ ขสมก. จัดรถโดยสารเฉพาะกิจให้บริการเชื่อมต่อสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ และสถานีรถไฟฟ้า ตั้งแต่เวลา 05.00 - 22.00 น. เพื่อให้ประชาชนเดินทางได้อย่างสะดวกและไร้รอยต่อตามนโยบายกระทรวงคมนาคม รวมทั้งได้จัดจุดจอดให้บริการแท็กซี่เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทาง และจัดรถ Shuttle Bus (รถนิมิบัส) 6 คัน ให้บริการรับ - ส่งจากสถานีขนส่งหมอชิต 2 บริเวณชานชาลาที่ 17 18 และ 19 ช่วงเวลา 16.00 - 22.00 น. นำผู้โดยสารไปขึ้นรถที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ในกรณีที่มีผู้โดยสารมาขึ้นรถไม่ตรงจุดที่กำหนด รวมถึงให้มีการรณรงค์ด้านความปลอดภัยบนรถโดยสาร เช่น การคาดเข็มขัดนิรภัย แนะนำการปฏิบัติกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

สำหรับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวด้วยรถไฟในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ไม่น้อยกว่า 100,000 คนต่อวัน รฟท. ได้จัดเตรียมมาตรการทั้งด้านความปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับการเดินทางของพี่น้องประชาชนให้เป็นไปด้วยความราบรื่น และมั่นใจว่าจะไม่มีผู้โดยสารตกค้างแต่อย่างใด โดย รฟท. ได้เพิ่มตู้โดยสารในขบวนรถประจำให้เต็มหน่วยลากจูง ครอบคลุม 214 ขบวนต่อวัน สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 คนต่อวัน นอกจากนี้ ยังเพิ่มขบวนรถเสริมพิเศษช่วยการโดยสารอีก 26 เที่ยว ในเส้นทางสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 - 17 เมษายน 2568 ทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ ทั้งนี้ สามารถจองตั๋วโดยสารผ่านระบบ D-Ticket หรือสถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ ได้ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2568 เป็นต้นไป

ส่วนมาตรการด้านความปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ รฟท. ร่วมมือกับกองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมบนรถไฟ โดยจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ตรวจตราความเรียบร้อยบนขบวนรถ พร้อมแนะนำข้อปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารอย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ และสารเสพติดของพนักงานทุกคน ต้องเป็นศูนย์ก่อนปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังความปลอดภัยจากกล้องวงจรปิด CCTV ตามสถานีและบนขบวนรถทั่วประเทศ เพื่อดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อาทิ อบต. เทศบาล จัดอาสาสมัครเฝ้าระวังทางผ่านเสมอระดับรถไฟ - รถยนต์ หรือบริเวณชุมชน เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันเหตุต่าง ๆ ด้วย