กลุ่มหลากหลายทางเพศ ทั้งตัวแทนคณะทำงาน 1448 For All, เครือข่ายเพื่อนกะเทยไทย, กลุ่มนำทาง, กลุ่มพนักงานบริการ, กลุ่มโรงน้ำชา และตัวแทนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ รวมถึงนักวิจัยอิสระร่วมหารือและยื่นหนังสือถึงพรรคเพื่อไทย ผ่านนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อขอให้ช่วยผลักดันให้ได้รับสิทธิด้านต่างๆ ที่เท่าเทียมและเป็นรูปธรรม
นางลดาวัลลิ์ แถลงหลังหารือมากกว่า 2 ชั่วโมงว่า คณะทำงานด้านร่างนโยบายด้านสังคมพรรคเพื่อเคยร่วมสัมมนาและรับฟังข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศและที่เกี่ยวข้องมาแล้วก่อนหน้านี้ในหลายประเด็นโดยการก่อนเลือกตั้ง พร้อมยืนยันว่า ความหลากหลายทางเพศเป็นสิ่งที่สหประชาชาติ รับรองว่าเป็นสิทธิของมนุษย์ทุกคนที่จะได้รับการคุ้มครอง ได้รับปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่เคารพในสิทธิมนุษยชนตามหลักสากล
ทั้งนี้ กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศและเครือข่ายเรียกร้องต่อพรรคเพื่อไทย 4 ประเด็นประกอบด้วย
1.) ให้ช่วยผลักดันสิทธิเพศสภาพ โดยให้ใช้นำคำนำหน้าชื่อทั้งนายและนางสาวโดยไม่ต้องได้รับการรับรองจากแพทย์ แต่ขอให้เป็นสิทธิที่มาจากความต้องการส่วนบุคคล โดยพรรคเพื่อไทยรับข้อเสนอไว้ก่อน เพราะต้องพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้อง
2.) ขอให้ผลักดันกฎหมาย 2 ฉบับคือกฎหมายคู่สมรสหรือคู่ชีวิต ที่ไม่จำกัดเฉพาะการสมรสระหว่างเพศชายกับเพศหญิงเท่านั้น ดังเช่นในหลายประเทศ ที่กฎหมายรองรับการแต่งงานของทุกเพศสภาพได้ แต่ถ้าการออกกฎหมายใหม่ยุ่งยาก มีอีกแนวทางหนึ่งคือ แก้ไขมาตรา 1448 ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในเรื่องการสมรสระหว่างหญิงกับชาย เพิ่มเป็นให้ครอบคลุมบุคคลทุกเพศสภาพ
สำหรับกฎหมายแพ่ง มาตรา 1448 บัญญัติไว้ว่า "การสมรสจะทำได้ต่อเมื่อชายและหญิงมีอายุ 17 ปีบริบูรณ์แล้ว แต่ในกรณีที่มีเหตุอันสมควร ศาลอาจอนุญาตให้ทำการสมรสก่อนนั้นได้"
3.) กลุ่มทำทาง ขอให้ดูกฎหมายการทำแท้ง ที่มีบทลงโทษผู้หญิงที่ไปทำแท้ง แต่ไม่มีการลงโทษหมอที่ทำแท้ง จึงอยากให้ละเว้นเพื่อให้บุคคลมีสิทธิ์ที่จะเลือกที่จะยุติการตั้งครรภ์ โดยปกติมีโรงพยาบาลรับยุติการตั้งครรภ์เมื่อไม่พร้อม หลายแห่ง แต่มีน้อยแห่ง ไม่ครอบคลุมทั่วประเทศ ตลอดจนข่าวสารต่างๆ ก็ไปถึงผู้หญิงที่ต้องการยุติการตั้งครรภ์เมื่อไม่พร้อม ทำให้ต้องทำแท้งด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม เกิดอาการตกเลือดและเป็นอันตรายต่อชีวิต
4.) กลุ่มพนักงานบริการ อยากให้ยกเลิก พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณีปี 2539 ซึ่งนางลดาวัลลิ์มีส่วนร่วมผลักดันพ.ร.บ. ฉบับนี้และได้ยืนยันถึงความจำเป็นที่มีกฎหมายเพื่อป้องกันเด็กและเยาวชนถูกชักนำไปขายบริการทางเพศ, มีการเพิ่มโทษผู้ค้าประเวณี และเรื่องบทลงโทษผู้ใช้บริการรวมถึงพ่อแม่ที่ขายลูกเพื่อค้าประเวณี
ขณะที่กลุ่มพนักงานบริการ มองว่ามีกฎหมายค้ามนุษย์อยู่แล้ว จึงอยากให้เน้นว่าอย่าให้ถูกจับกุมหญิง-ชายหรือบุคคลบรรลุนิติภาวะที่ขายบริการทางเพศ แต่ไม่ประสงค์ที่จะขึ้นทะเบียนเป็นอาชีพขายบริการ
นางลดาวัลลิ์ ย้ำด้วยว่า ข้อเสนอหลายอย่างของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะต้องพิจารณาในรายละเอียด และต้องดูศีลธรรมจรรยาของสังคมประกอบด้วย แต่จะนำทั้ง 4 ประเด็น เข้าสู่ที่ประชุมในวันพุธที่ 9 ก.ย. โดยจะนำเสนอทุกประเด็น รวมถึงเรื่องที่ค้างอยู่ เสนอให้ ส.ส. พรรคเพื่อไทยได้ยื่นญัตติต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อตั้งกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาสิทธิของกลุ่มหลากหลายทางเพศในทุกมิติที่เรียกร้องมา หรือบรรจุในคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ ที่มีอยู่แล้วหากสอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ ซึ่งนางลดาวัลลิ์ มองว่า แนวทางนี้เป็นวิธีที่ดี ที่จะมีตัวแทน ผู้มีความหลากหลายทางเพศเข้าร่วมด้วย
วันเดียวกันนี้ ที่พรรคเพื่อไทยมีการขนถ่ายสิ่งของบริจาคจากประชาชนพื้นที่เขตสายไหม กทม.และใกล้เคียง ทั้งอาหารแห้ง โดยเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่ม เสื้อผ้าและยาสามัญประจำบ้าน เพื่อช่วยเหลืออุทกภัย ภายใต้โครงการ "ธารน้ำใจจากพี่น้องชาวสายไหม เพื่อไทย ช่วยไทย ร่วมใจช่วยน้ำท่วม" ตามนโยบายพรรค ซึ่งจะนำไปช่วยผู้ประสบอุทกภัยที่จังหวัดร้อยเอ็ด