นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นเรื่องขอเปิดประชุมรัฐสภา สมัยวิสามัญ เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมาตรการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนว่า ฝ่ายค้านไม่ได้ตรวจสอบตัวเองว่ามีชื่อครบหรือไม่ เพราะปรากฏว่ารายชื่อสนับสนุนไม่ครบ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 123 และเข้าใจว่าขณะนี้สังคมทราบโดยทั่วไปว่ามีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยสามัญประจำปี เมื่อวันที่ 22 พ.ค.นี้
ตนจึงมองว่าฝ่ายค้านยึดติดกับการเมือง ทั้งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในขณะนี้ หากฝ่ายค้านจะทำการเมืองก็เปลี่ยนไปทำหน้าที่ตรวจสอบ และเตรียมข้อมูลไว้อภิปรายเมื่อเปิดสมัยประชุม ทั้งการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เงินกู้ 3 ฉบับ และร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 เพราะถ้าฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มแข็ง ก็จะเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลและบ้านเมืองด้วย ส่วนการยื่นเรื่องเพื่อขอเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ เป็นเรื่องที่ฝ่ายค้านควรคิดถึงเรื่องการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในภาวะวิกฤติเช่นนี้จะดีกว่า
“การยื่นเรื่องให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เป็นเรื่องการเมืองชัดเจนมาก เช่นคนระดับรองหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านออกมาพูดว่าทำไมนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯไม่เปิดวิสามัญทันที ผมเข้าใจว่ามีความคาดเคลื่อนในข้อเท็จจริง เพราะประธานสภาฯไม่สามารถเปิดประชุมวิสามัญได้ การจะเกิดได้ต้องเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ หรือมีการพูดถึงว่าตอนนี้มีความเดือดร้อน แต่รัฐบาลไม่เปิดสภาฯมาพูดคุย ซึ่งการพูดอย่างนี้ฝ่ายค้านหลงยุคไปหรือเปล่า เพราะในยุคสมัยนี้ต้องการให้ตัวแทนประชาชนทำบทบาทได้หลายอย่าง ไม่จะเป็นต้องพูดในสภาฯเสมอไป และในสถานการณ์เช่นนี้ ถ้าฝ่ายค้านยังคิดว่าสภาฯเป็นส่วนที่ขับเคลื่อนเกมการเมืองได้ ถือว่าเขาคิดผิด”
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์จะประชุมส.ส.ของพรรคเมื่อใดนั้น นายชินวรณ์ กล่าวว่า ต้องรอความชัดเจนถึงระเบียบวาระการประชุมสภาฯ หลังมีพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสภาสมัยสามัญออกมา ประธานสภาฯ ก็ต้องออกระเบียบวาระการประชุม และเชิญประชุมก่อน 5 วัน ซึ่งในสถานการณ์ปกติได้กำหนดประชุม 27-28 พ.ค.นี้ แต่ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ประธานสภาฯจึงต้องหาทางออก ซึ่งอาจมีข้อยกเว้นหรืออย่างไร ก็เป็นเรื่องที่ประธานสภาฯจะเป็นผู้กำหนด ส่วนการประชุมวิปรัฐบาลยังเป็นไปตามกำหนดเดิม คือวันที่ 18 และ 25 พ.ค.นี้ ที่รัฐสภา
อ่านเพิ่มเติม