“ผมหวังว่าช่วงต้นสัปดาห์ ผมหมายถึงช่วงปลายสุดสัปดาห์” ไบเดนกล่าวกับผู้สื่อข่าว หลังถูกสอบถามว่าการหยุดยิงในฉนวนกาซาจะเกิดขึ้นเมื่อใด “ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติบอกผมว่าเรามันใกล้จะถึงแล้ว ใกล้แล้ว ยังไม่แล้วเสร็จ และความหวังของผมก็คือภายในวันจันทร์หน้า เราจะมีการหยุดยิง” ไบเดนกล่าวเสริม
เมื่อช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา (26 ก.พ.) กลุ่มฮามาสได้ออกมาสนับสนุนข้อเรียกร้องสำคัญบางประการในการเจรจาข้อตกลงตัวประกัน และหยุดการสู้รบในฉนวนกาซาชั่วคราว หลังจากอิสราเอลออกมากล่าวหาว่าจุดยืนของกลุ่มฮามาสนั้น “หลงผิด” ทั้งนี้ การเจรจาเพื่อการพักรบเข้าใกล้ข้อตกลง โดยจะมีการหยุดยิงและมีการปล่อยกลุ่มตัวประกันชาวอิสราเอล
“อุปสรรคสำคัญได้รับการแก้ไขแล้ว ในแง่ของกลุ่มฮามาสที่ยืนกรานที่จะให้มีถอนกำลังอิสราเอลอย่างเต็มรูปแบบและยุติสงคราม” เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายบริหารของไบเดน ระบุกับสำนักข่าว CNN ภายหลังการประชุมเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 ก.พ.) ในกรุงปารีส ระหว่างตัวแทนการเจรจาของสหรัฐฯ อียิปต์ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองอิสราเอล และนายกรัฐมนตรีกาตาร์
“ข้อกำหนดของฮามาสสำหรับจำนวนชาวปาเลสไตน์ (นักโทษที่) จะต้องได้รับการปล่อยตัวมีการปรับจำนวนลดลง” เจ้าหน้าที่อาุวโสของสหรัฐฯ กล่าวเสริม
แหล่งข่าวทางการทูตให้การยืนยันกับ CNN ว่า กลุ่มฮามาสลดจุดยืนของพวกเขาลงจากข้อตกลงในระยะแรก แม้จะมีการคาดการณ์ว่าอาจเกิดอุปสรรดใจระยะต่อไป เมื่อคู่เจรจาจะต้องมีการหารือเกี่ยวกับประเด็นที่ซับซ้อน เช่น การปล่อยตัวประกันชายที่สังกัดกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) จากการควบคุมตัวของฮามาส และการยุติสงครามในฉนวนกาซา
ผู้ที่เกี่ยวข้องในการหารือกล่าวว่าข้อตกลงน่าจะดำเนินการในหลายระยะ และเมื่อข้อตกลงเริ่มแรกเกิดขึ้น มันอาจนำไปสู่การหยุดยิงที่กินระยะเวลายาวนานถึง 6 สัปดาห์ โดยจะมีการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลกลุ่มหนึ่ง รวมถึงผู้หญิง เด็ก และผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเพื่อแลกตัวกับนักโทษชาวปาเลสไตน์จำนวนน้อยกว่าที่กลุ่มฮามาสเรียกร้องให้อิสราเอลปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำในตอนแรก อย่างไรก็ดี การเจรจาในระยะที่สองคาดว่าจะมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล แสดงท่าทีที่ชัดเจนว่า อิสราเอลตั้งใจที่จะเปิดการโจมตีทางทหารต่อเมืองราฟาห์ ในขณะที่ในข้อเสนอก่อนหน้านี้นั้น กลุ่มฮามาสได้กล่าวว่าพวกเขาต้องการใช้การเจรจาระยะที่สองเพื่อหารือเกี่ยวกับ “ข้อกำหนดที่จำเป็นสำหรับการยุติปฏิบัติการทางทหารร่วมกันต่อไป”
“เรามีความคืบหน้าในการสนทนาเหล่านี้ในช่วงสุดสัปดาห์และ 2-3 วันที่ผ่านมา” เพื่อพยายามบรรลุข้อตกลงในการปล่อยตัวประกันและขอหยุดยิงชั่วคราว แมตต์ มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา “เรายังคงเชื่อว่าข้อตกลงนั้นเป็นไปได้ และเราจะดำเนินการติดตามมันต่อไป” มิลเลอร์กล่าวเสริม
มิลเลอร์ระบุอีกว่าหากฮามาส “ใส่ใจชาวปาเลสไตน์อย่างแท้จริง พวกเขาควรเห็นด้วยกับข้อตกลงที่อยู่บนโต๊ะ เพราะจะช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมานของชาวปาเลสไตน์เหล่านั้นได้อย่างมาก”
นอกจากนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (25 ก.พ.) เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับเงื่อนไขต่างๆ ที่กำลังมีการหารือกันอยู่ในคณะเจรจา แต่เขากล่าวว่าการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่กรุงปารีสส่งผลให้เกิด “ความเข้าใจในหมู่พวกเขาทั้ง 4 ฝ่ายเกี่ยวกับโครงร่างพื้นฐานของข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวว่าจะเป็นอย่างไร”
“กาตาร์และอียิปต์จะต้องหารือทางอ้อมกับกลุ่มฮามาส เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกเขาจะต้องตกลงปล่อยตัวประกัน” ซัลลิแวนระบุกับ CNN “ภารกิจนั้นกำลังดำเนินการอยู่ และเราหวังว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เราจะสามารถขับเคลื่อนไปสู่จุดที่มีข้อตกลงที่มั่นคงและเป็นขั้นสุดท้ายในประเด็นนี้ แต่เราจะต้องรอดูกันต่อไป”
ในอีกด้านหนึ่ง อิสราเอลยืนยันเมื่อวันจันทร์ว่า พวกเขากำลังส่งทีมเจรจาไปยังกรุงโดฮา หลังจากก่อนหน้านี้ที่เนทันยาฮูแทบจะไม่แสดงความสนใจในการเจรจาใดๆ
“พวกเขาต้องลงมาสู่ความเป็นจริง” เนทันยาฮูกล่าวถึงกลุ่มฮามาสในรายการของสำนักข่าว Fox News “และผมคิดว่าหากเป็นเช่นนั้น เราจะได้ข้อตกลงที่เราต้องการอย่างแน่นอน และผมก็ต้องการด้วย
ปัจจุบันนี้ เนทันยาฮูกำลังเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลจากประชาชนอิสราเอล ที่เรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันมากกว่า 130 คนที่ยังคงถูกจับกุมตัวอยู่ในฉนวนกาซาโดยกลุ่มฮามาส ซึ่งรวมถึงศพของตัวประกันหลายคนที่มีการคาดว่าพวกเขาน่าจะเสียชีวิตไปแล้ว
เนทันยาฮูยังย้ำว่าเขาวางแผนที่จะสั่งกองทัพอิสราเอลให้บุกเข้าไปในเมืองราฟาห์ ซึ่งสหรัฐฯ ได้ออกมาเตือนว่า กองทัพอิสราเอลกำลังกระทำการต่อต้านโดยไม่มีแผนที่หนักแน่นเพียงพอ ที่จะคำนึงถึงความปลอดภัยของชาวปาเลสไตน์ราว 1.5 ล้านคน ซึ่งปัจจุบันกำลังหลบภัยอยู่ในเมืองราฟาห์ และยะงมีประชาชนปาเลสไตน์อีกหลายคนที่กำลังหนีการสู้รบโดยมุ่ฃหน้าไกลออกไปในพื้นที่ทางตอนเหนือ
ไม่ว่าจะมีข้อตกลงตัวประกันหรือไม่ก็ตาม “เราจะทำมันต่อไป” เนทันยาฮูระบุกับสำนักข่าว CBS News เพราะ “ชัยชนะทั้งหมดคือเป้าหมายของเรา”
“เราไม่สามารถออกจากฐานที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มฮามาสได้หากไม่ได้รับการจัดการ” เนทันยาฮูกล่าวย้ำ
ที่มา: