คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กกรณีการใช้ประมาณของรัฐบาลว่า นอกจากงบประมาณปีนี้ที่นายกฯ ยังไม่ยอมสั่งให้ทุกกระทรวงตัดงบที่ไม่จำเป็น แล้วเปลี่ยนมาใช้ในการต่อสู้กับโควิด-19 เรื่องที่น่าเป็นห่วงและชี้ให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ผู้นำคือ มติ ครม. เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกฯ ยังไฟเขียว กรอบงบประมาณปี 64 โดยตัดงบกระทรวงกลาโหมแบบขอไปทีเพียง 0.1 เปอร์เซ็นต์ หรืองบกลาโหมห้ามแตะ

ดังนั้นขอเสนอให้นายกฯ เร่งใช้อำนาจที่มี ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ดังนี้ 1.เร่งใช้งบกลางที่กองอยู่ในมือนายกฯ เป็นแสนล้านบาทในการระงับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ใช่ปล่อยให้มีการระบาดเพิ่มเป็นร้อยรายทุกวัน และเร่งจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ที่ขาดแคลนอย่างเร่งด่วน 2.ตัดงบประมาณปี 63 ที่ไม่จำเป็นของทุกกระทรวงออกทั้งหมดให้ได้ 300,000 ล้านบาท หรือเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ ของงบประมาณปี 63 ที่มีทั้งหมด 3.3 ล้านล้านบาท เพื่อนำมาเยียวยาผลกระทบให้กับผู้ที่เดือดร้อน ทั้งลูกจ้าง พ่อค้าแม่ขาย อาชีพอิสระต่างๆ เดือนละ 5,000 บาท 3 เดือน รวมทั้งช่วยพยุงธุรกิจรายเล็ก เอสเอ็มอี ตามข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย และ3.ขอให้นายกฯ นำกรอบการพิจารณางบปี 64 เข้าไปพิจารณาในครม.ใหม่ เพื่อปรับลดงบที่ไม่จำเป็นทุกกระทรวงออก ตั้งเป้าอย่างน้อยกระทรวงละ 10 - 15 เปอร์เซ็นต์ เพื่อนำเงินมาแก้ผลกระทบทางเศรษฐกิจของโควิด-19 ในปีหน้า

ส่วนเรื่องเงินกู้ที่รัฐบาลกำลังจะออกกฎหมายมากู้เงินนั้นขอให้ใจเย็น ต้องกู้แน่แต่ต้องกู้มาเพื่อใช้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจครั้งใหญ่ หลังการระบาดของโควิด-19 ซึ่งต้องใช้เงินอีกหลายแสนล้านบาท แต่ก่อนจะออก พ.ร.ก.เงินกู้ ควรเร่งใช้งบกลางและเร่งตัดงบปี 63 และ 64 ที่ไม่จำเป็นออก เพื่อมาช่วยแก้ปัญหาก่อน ขอย้ำว่ายุทโธปกรณ์เพื่อใช้ในการสู้รบราคาแพงทั้งหลาย เรือดำน้ำ รถถัง ไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคที่กำลังเป็นภัยคุกคามประเทศไทยได้ อาจเทียบไม่ได้กับหน้ากากอนามัยเพียงแผ่นเดียว หรือชุดพีพีอีเพียงชุดเดียวให้กับหมอในเวลานี้ ปรับปรุงการใช้งบประมาณเสียใหม่ ใช้เงินให้ตรงกับความจำเป็นเร่งด่วน แก้ไขวิกฤตประเทศให้ได้