วันที่ 14 ก.พ. 2566 ชวลิต วิชยสุทธิ์ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยสร้างไทย ในฐานะอดีตประธานกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณา พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ให้สัมภาษณ์ว่า พรุ่งนี้วันอังคารที่ 14 ก.พ.66 มีข่าวลือหนาหูว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรีจะมีวาระการออก พ.ร.ก.เพื่อเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว โดยอ้างถึงความไม่พร้อมของส่วนราชการผู้ปฏิบัติ ในฐานะอดีตประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณากฎหมายฉบับดังกล่าวเห็นว่า หากเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ออกไปจะเกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ด้านความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยอย่างรุนแรง ทั้งในระดับนานาชาติ และภายในประเทศ

ข้ออ้างถึงความไม่พร้อม ฟังไม่ขึ้น เพราะผู้แทนส่วนราชการที่มาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ ยืนยันความพร้อม มีประเด็นเดียวที่ผู้มีอำนาจไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ คือ กฎหมายฉบับนี้มีสาระเป็นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น ในชั้นการจับกุม และสอบสวน ที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งก็ควรจะพอใจที่ประชาชนจะมีหลักประกันได้รับการคุ้มครอง ให้ความเป็นธรรม ขณะเดียวกัน ข้าราชการที่สุจริต ก็มีหลักประกันคุ้มครองให้ความเป็นธรรมเช่นกัน เนื่องจากเป็นกฎหมายสำคัญที่สังคมให้ความสนใจจำนวนมาก จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่อาสามาทำงานเพื่อประชาชน จะมีนโยบายในการบริหารบ้านเมืองสร้างความเป็นธรรมกับประชาชน หรือจะทำงานเพื่ออำนาจของตนเองและพวกพ้อง ขอสังคมช่วยกันติดตามและทักท้วงหากไม่เดินตามทำนองคลองธรรม พรรคไทยสร้างไทย จะรักษาผลประโยชน์ของประชาชนโดยเฉพาะด้านการอำนวยความยุติธรรมอย่างถึงที่สุด