วันที่ 15 ก.ย. 2564 ที่รัฐสภา สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ร่วมกันแถลงข่าวสรุปผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ฝ่ายค้านจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งหมด 8 เรื่อง เกี่ยวข้องกับการแก้ไขสถานการณ์โรคโควิด-19 จำนวน 6 ประเด็น เช่น เรื่องการสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวค ที่ฝ่ายค้านมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กับ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุขยังตอบคำถามไม่ชัดเจน หลัถูกอภิปรายตั้งข้อสังเกตส่วนต่างราคาซื้อที่อาจเกิดกรณีเงินทอน
ส่วนอีก 2 ประเด็น คือ เรื่องเกี่ยวกับการระบายยางพารา และสัมปทานดาวเทียมที่ยังเป็นปัญหา ดังนั้นทั้ง 8 เรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับ 4 รัฐมนตรี ซึ่งฝ่ายค้านยื่นต่อ ป.ป.ช. ในครั้งนี้ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ อนุทิน เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ , และชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ฝ่านค้านย้ำว่า ทั้งหมดเป็นกระบวนการตรวจสอบของสภาฯตามปกติ เพราะการทำหน้าที่ของฝ่ายในสภาฯแม้มติจะไม่สามารถเอาผิดตามที่กล่าวหาได้ แต่กระบวนการของ ป.ป.ช. จะทำหน้าที่ตัดสินตามข้อเท็จจริง หากมีความผิดรัฐมนตรีที่ถูกกล่าวหาจะถูกดำเนินคดีในที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ยื่นต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร 1 เรื่อง คือ กรณี วิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แจกเงินให้ ส.ส. แลกกับการลงมติไว้วางใจ โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทย อธิบายเหตุผลที่ต้องยื่นต่อกรรมาธิการฯของสภาฯก่อน เนื่องจากการให้ใช้อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนยื่น ป.ป.ช.ตามขั้นตอนตามปกติเมื่อพบว่ามีหลักฐานหนักแน่นเพียงพอ