พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) จัดกิจกรรมจากโคราชสู่การปฏิรูปกองทัพ #เมื่อน้ำตาไม่ใช่ทางออก ที่บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เพื่อให้ประชาชน ร่วมแสดงออกถึงความหวังของประชาชนที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงในกองทัพ โดยมีประชาชนเดินทางเข้าร่วมงานจำนวนมาก โดยก่อนเริ่มกิจกรรมบนเวที น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ผู้ดำเนินรายการ ได้อ่านรายชื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ กราดยิง ที่ จ.นครราชสีมา พร้อมยืนไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตเป็นเวลา 1 นาที
จากนั้น พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มองถึงเหตุการณ์ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ก่อเหตุนำอาวุธสงครามในค่ายทหาร เข้ากราดยิงในห้างเทอร์มินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา ว่า ถึงเวลาแล้ว ที่ต้องปฏิรูปกองทัพและตำรวจอย่างจริงจัง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากปัญหาส่วนตัวระหว่างทหารชั้นผู้น้อย และผู้บังคับบัญชา ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ แต่เมื่อเกิดปัญหาแล้ว ไม่รู้จะไปพึ่งใครได้ เพราะปัจจุบันกองทัพใช้วิธิการแต่งตั้งจากส่วนกลางคุมอำนาจรวมศูนย์ไว้ทั้งหมด ดังนั้นควรปฏิรูป ทหารชั้นผู้น้อยตั้งแต่ระดับพันโท ลงไป ควรมีสวัสดิการ ต้องมีบ้าน มีที่อยู่อาศัย มีเงินให้ครอบครัวเพียงพอ รวมถึงประกันชีวิต หากปฏิรูปเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าว ก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นนอน
พล.ท.พงศกร ยังกล่าวว่า หลายกรณีที่เกิดขึ้นเหล่านี้เป็นผลพวงมาจากรัฐประหาร เพราะจาก 94 ประเทศทั่วโลก พิสูจน์แล้วว่า รัฐประหารไม่เคยทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ดังนั้น การที่จะเปลี่ยนแปลงได้ต้องอย่าเดินตามผู้นำและ ขอให้ช่วยกันรักษาสิทธิเสรีภาพ ต่อสู้เพื่อตัวเอง และประชาธิไตยจะเกิดขึ้น
แนะจำกัดขอบเขตศาลทหาร มีกลไกร้องทุกข์ให้ทหารชั้นผู้น้อย
ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า เรื่องข้อร้องเรียนของทหารชั้นผู้น้อยเคยมีเรื่องการให้ตั้งศูนย์ร้องเรียนมาแล้ว แต่ไม่มีใครกล้าร้อง อีกทั้งกฎหมายที่รับรองการร้องเรียนของทหารก็ล้าสมัย ไม่มีการบรรจุหลักสิทธิมนุษยชน ไม่มีการคุ้มครองผู้ร้องทุกข์ ดังนั้น เมื่อผู้ร้องทุกข์รู้สึกไม่ปลอดภัย ก็ไม่มีใครกล้าร้อง การที่ พล.อ.อภิรัช คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ประกาศระบบการร้องทุกข์ ของกองทัพนั้นืปัญหาไม่ได้อยู่ที่ช่องทาง แค่โครงสร้างและระบบไม่เปลี่ยน อาจจะทำให้ผู้ร้องทุกข์เดือดร้อนเร็วขึ้นไปอีก ดังนั้นมองว่า การที่จะทำให้การร้องเรียนของทหารชั้นผู้น้อยเกิดความเป็นธรรม คือ ต้องบรรจุหลักสิทธิมนุษยนชนเข้าไปในค่ายทหาร ต้องมีกลไกในการคุ้มครองผู้ถูกร้องทุกข์ จำกัดขอบเขตศาลทหารให้ได้ พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า การที่เปิดให้พลทหารสามารถร้องเรียนสายตรงถึง ผบ.ทบ.โดยตรงได้นั้น ก็ไม่เชื่อว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง และขออย่าไปเชื่อมั่นในตัวบุคคล เพราะวันก่อนยังบีบน้ำตา วันต่อมาจูงหมามาด่าคน ยังทำได้
'ธนาธร' ทวงคำตอบผลประโยชน์ธุรกิจสีเทากองทัพ
จากนั้น ในเวลา 18.30 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ระบุในหัวข้อ " ปฏิรูปกองทัพอย่างไร ? ไม่ให้เป็นเพียงการแสดง " กล่าวว่า ถ้าสังคมไทยยุติธรรมกว่านี้ เหตุการณ์ที่โคราชอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ ดังนั้น ต้องมองถึงโครงสร้างของกองทัพที่มีปัญหา โดยขอฝากไปยัง ผบ.ทบ.ว่า จำเป็นต้องปฏิรูปกองทัพอย่างจริงจัง ไม่ทำให้เป็นเพียงการแสดง โดยช่วงที่ตนเองเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2563 เคยถามไปยังกระทรวงกลาโหม เกี่ยวกับ ธูรกิจม้า ธุรกิจมวย เงินนอกงบประมาณของกระทรวงกลาโหม และผลประโยชน์ของรัฐบาลที่ประชาชนไม่สามารถตรวจสอบได้ ใครได้ประโยชน์ และเงินเหล่านั้นไปอยู่ที่ไหน สังคมที่เกิดความขัดแย้งในปัจจุบัน มีการตั้งไอโอขึ้นมาสร้างความขัดแย้งเกลียดชังใช่หรือไม่ แต่คำถามเหล่านี้ผ่านมาเป็นเวลา 80 วัน ยังไม่เคยได้รับคำตอบ ซึ่งสิ่งเหล้านี้คือ โครงสร้างของกองทัพ และเกิดความอยุติธรรมขึ้นในกองทัพ
จากกรณีทหารกราดยิงที่โคราช ทำให้ได้เรียนรู้ว่า ต่อให้ได้รับความอยุติธรรมมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถอนุญาตให้นำอาวุธมาฆ่าผู้บริสุทธิ์ได้ เรียนรู้ว่าอาชญากรรมกรเกิดมาจากสังคม หากมีโอกาสที่ดี รัฐมีการจัดสวัสดิการพื้นฐาน และเคารพในศักดิ์ศรี ได้รับสิทธิ เสรีภาพ กระบวนการยุติธรรม โอกาสที่จะเป็นอาชญากรก็น้อยลง แต่ขอย้ำว่า ต่อให้ได้รับความอยุติธรรมมากเท่าไหร่ ก็ไม่มีสิทธิพรากชีวิตคนบริสุทธิ์
ไม่เชื่อ ผบ.ทบ. สังคายนากองทัพปมบ้านหลวง
หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ผบ.ทบ. ระบุว่าจะมีการปฏิรูปกองทัพ โดยมีข้อเสนอหลายข้อ อาทิ ให้มีฮอตไลน์รับเรื่องร้องเรียนของทหาร โดยทหารเกษียณอายุต้องออกจากบ้านพักราชการ โดยต้องทำให้สำเร็จภายใน 90 วัน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ก็เห็นด้วยว่าควรสังคายนากองทัพ แต่ส่วนตัวไม่เชื่อมั่นคำพูดดังกล่าว เพราะ ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ มี มาตรา 44 อยู่ในมือแต่ไม่เคยนำมาใช้ปฏิรูปกองทัพ วันนี้จึงอยากถามว่า 84,000 เซลล์เข้าใจความหมายของคำว่าสังคายนาหรือไม่ ไม่ใช่การออกมาบีบน้ำตา แล้วจูงหมามาด่าคน
จี้ ผบ.ทบ.เปิดชื่อบิ๊กทหารเกษียณฯแล้วยังอยู่บ้านพักหลวง
นายธนาธร ย้ำว่า ตนเองไม่ไว้ใจกองทัพปฏิรูปกองทัพ โดยกองทัพเองได้ ดังนั้น ต้องเรียกร้องให้ปฏิรูปกองทัพ และไม่ปล่อยผ่านไปได้ ซึ่งการปฏิรูปเพื่อไม่ให้เป็นเพียงการแสดงต้องแก้ไขโครงสร้าง 3 ข้อ คือ 1.กองทัพที่ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนตรวจสอบ เป็นกองทัพที่มืดมิด ตรวจสอบตัวเอง 2.การทำลายสิทธิมนุษยชนในกองทัพที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ 3.วัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวลในทหารชั้นสูง ดังนั้น จึงขอเสนอมาตรการ 3 ป. ไปยัง พล.อ.อภิรัชต์ คือ เปิดชื่อ เปิดชื่อว่าทหารเกษียณไปแล้วแต่ยังใช้บ้านของกองทัพว่ามีกี่คน เปิดงบฯ ที่ใช้ในกองทัพให้ตรวจสอบได้ และเปิดทางให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบติดตามและเสนอแนะในการปฏิรูปกองทัพ พร้อมแนะนำ พล.อ.อภิรัชต์ ว่า หากต้องการปฏิรูปกองทัพอย่างจริงใจต้องให้ประชาชนเข้าไปร่วมตรวจสอบ เพราะหวังดีว่าพล.อ.อภิรัชต์เพียงคนเดียวอาจจะทนเเรงเสียนทานไม่ไหว
ขีดเส้นใน 90 วัน ทวงคำตอบปฏิรูปกองทัพจาก ผบ.ทบ.
ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าจะขอเสนอตั้ง กมธ.วิสามัญ ติดตามตรวจสอบ และเสนอแนะ การปฏิรูป กองทัพ โดยไม่มีเหตุผลที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะขัดขวางการตั้ง กมธ.ชุดนี้ ขณะเดียวกับ ตนเองจะใช้เฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดฮอตไลน์ แข่งกับ ผบ.ทบ.โดยส่งเรื่องร้องเรียนโดยตรงมาที่ตนเองได้โดนตรง เพื่อรวบรวมข้อมูลก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ให้พรรคอนาคตใหม่ ได้เป็นปากเสียงแทนทุกคน พร้อมกล่าวว่าในเดือน พ.ค. ซึ่งครบรอบ 90 วันที่พล.อ.อภิรัช ระบุว่าจะปฏิรูปกองทัพให้สำเร็จ จะกลับมาทวงสัญญา เพื่อไม่ให้ผู้บริสุทธิ์และ สูญเสียจากโคราชต้องตายฟรี
ย้ำพร้อมชุมนุมตามเสรีภาพหากพรรคถูกยุบ
นอกจากนี้ในช่วงท้ายประชาชนผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ถามคำถามไปยัง นายธนาธร ว่าหากพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบพรรคจะมีการนำประชาชนลงถนนหรือไม่ โดยนายธนาธร ระบุว่า ที่ใดมีการกดขี่ต้องมีการต่อสู้ ทุกคนต้องช่วยกันแสดงจุดนืน และยืนยันว่าการชุมนุมในที่สาธารณะเพื่อแสดงออกทางการเมืองเป็นสิทธิเสรีภาพโดยชอบ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย และไม่ว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาล จะมี ดร.ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่มี กองทัพก็ต้องปฏิรูป และต้องหยุดยั้งการรัฐประหารอยู่ดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง