สำนักข่าวบีบีซี ไทยรายงานว่า นางโซมูรา จูลอง อดีต ส.ส.พรรคกู้ชาติกัมพูชา หรือ CNRP พรรคฝ่ายค้านของกัมพูชาที่ถูกตัดสินยุบพรรค เปิดเผยว่า ตนเอง และสามี คือ นายสม รังสี ผู้ก่อตั้งพรรค CNRP รวมถึงอดีต ส.ส.ฝ่ายค้านอีกคน ไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG931 ซึ่งมีกำหนดเดินทางออกจากสนามบินชาร์ลส์ เดอ โกล ในกรุงปารีสของฝรั่งเศส และเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ยืนยันว่า ทั้งหมดจะพยายามเดินทางเข้าไปกัมพูชาให้ได้ตามกำหนดที่เคยประกาศไว้
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สม รังสี ซึ่งกำลังลี้ภัยทางการเมืองอยู่ในฝรั่งเศส ประกาศว่า เขาจะกลับกัมพูชาในวันที่ 9 พ.ย.นี้ แม้จะเสี่ยงถูกจับกุม เพื่อที่จะกลับไปนำการประท้วงต่อต้านรัฐบาลฮุน เซน นายกรัฐมนตรีที่ครองอำนาจมานานหลายทศวรรษ โดยสม รังสีได้ทวีตข้อความว่า “นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกคุณจะได้เห็นเขามีชีวิตอย่างเสรีชน”
สม รังสี เปิดเผยว่าจะกลับประเทศผ่านทางชายแดนไทย-กัมพูชา และได้ทำหนังสือขออนุญาตเข้าไทยไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทยแล้ว รวมถึงโพสต์ภาพตั๋วเครื่องบินจากกรุงปารีสมากรุงเทพฯ เพื่อที่จะเดินทางข้ามชายแดนเข้าไปยังกัมพูชา แต่ พล.อ.ประยุทธ์ได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่า ไทยจะไม่ให้สม รังสีเข้าประเทศไทย เพื่อจะใช้เป็นทางผ่านไปยังกัมพูชา โดยกล่าวว่า ไทยเคารพมติอาเซียนว่าด้วยเรื่องการไม่แทรกแซงกิจการภายในของกัมพูชา และจะไม่ให้ใครใช้ไทยเป็นฐานเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลอื่น
ความพยายามของสม รังสีที่จะเดินทางเข้าไทย ก่อนจะข้ามชายแดนไปยังกัมพูชา เป็นผลมาจากการที่ฮุน เซนสั่งไม่ให้สายการบินต่างๆ อนุญาตให้สม รังสีขึ้นเครื่องโดยสารไปยังกรุงพนมเปญ แต่ก่อนหน้านี้ มู ซกฮัว รองหัวหน้าพรรค CNRP ก็เพิ่งถูกทางการไทยห้ามไม่ให้เข้าประเทศ และต้องบินกลับไปที่อินโดนีเซีย
ด้านแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์สวอชประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า การห้ามสม รังสีเข้ากัมพูชา การข่มขู่คุกคาม จับกุม และโจมตีสมาชิกพรรค CNRP เป็นการป้องกันไม่ให้มีการฟื้นฟูประชาธิปไตยที่มีหลายพรรคการเมืองในกัมพูชา “เป็นเรื่องน่าขันที่รัฐบาลกัมพูชาปฏิบัติกับพรรคการเมืองที่ดำเนินกิจกรรมอย่างสันติมาโดยตลอด ราวกับเป็นภัยทางทหาร” และรัฐบาลควรจะยุติการคุกคามพรรคฝ่ายค้าน ยกเลิกข้อหาที่มีแรงจูงใจทางการเมืองทั้งหมด และปล่อยตัวคนที่ถูกกักขังไว้ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข
อดัมส์ยังกล่าวว่า สม รังสีและแกนนำพรรคฝ่ายค้านคนอื่นๆ มีสิทธิตามกฎหมายระหว่างประเทศที่จะกลับประเทศไปเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองอย่างสันติ รัฐบาลประเทศอื่นๆ และผู้บริจาคเงินให้กัมพูชาควรแสดงจุดยืนให้ชัดเจนต่อรัฐบาลกัมพูชาว่า จะต้องฟื้นฟูพหุนิยมทางการเมืองอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นจะต้องได้รับผลตามมา
ขณะเดียวกัน สมาชิกพรรค CNRP ซึ่งถูกศาลตัดสินยุบพรรคไปแล้ว ก็ถูกเจ้าหน้าที่บุกไปที่บ้าน ส่วนนักกิจกรรมเคลื่อนไหวร่วมกับพรรค 2 คน ก็ถูกมาเลเซียกักตัวไว้ หลังจากพยายามจะเดินทางกลับกัมพูชา โดยฮุน เซน กล่าวหาว่าสมาชิกพรรค CNRP พยายามจะก่อรัฐประหาร และรัฐบาลกัมพูชาได้จับกุมนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลร่วมกับพรรค CNRP อย่างน้อย 48 คน
ส่วนเกิม เสิกขา หัวหน้าพรรค CNRP ก็ถูกกักตัวอยู่ภายในบ้านตั้งแต่ปี 2017 หลังถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ ต่อมาเพียงไม่กี่เดือนก่อนจะมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปของกัมพูชา ศาลตัดสินยุบพรรค CNRP ทำให้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็นการเลือกตั้งที่พรรครัฐบาลของฮุน เซนไม่มีคู่แข่งเลย และสามารถกวาดที่นั่งในสภาทั้งหมดมาได้อย่างง่ายดาย
ทั้งนี้โมโนวิทยา เกิม ลูกสาวของเกิม เสิกขา อดีตหัวหน้าพรรค CNRP เคยวิจารณ์ว่า สม รังสีและสมาชิกพรรค CNRP อีกหลายคนไม่ได้วางแผนจะกลับไปกัมพูชาจริง แต่ทำแคมเปญที่จะแสดงให้เห็นว่า ยังมีคนสนับสนุนพรรค CNRP อยู่เท่านั้นเอง
ความเห็นของโมโนวิทยาแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ซึ่งยิ่งทำให้ฮุน เซนเข้มแข็ง อีกทั้งยังสะท้อนทัศนคติของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลบางส่วนที่รู้สึกว่า ในขณะที่ประชาชนชาวกัมพูชาทั่วไปถูกจับกุมคุมขังโดยรัฐบาลฮุน เซน แต่สม รังสี และมู ซกฮัว กลับสัญญาให้ในสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้อย่างการกลับประเทศไปสู้เพื่อประชาธิปไตย