เมื่อวันที่ 28 มี.ค.2563 นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในและประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ลงนามในประกาศจังหวัดภูเก็ตฉบับที่ 10 / 2563 เรื่องปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มเติม โดยมีเนื้อหาดังนี้
ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตได้ออกประกาศจังหวัดภูเก็ตฉบับที่ 6 / 2563 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2563 เรื่องปิดสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพทยระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยกำหนดให้ปิดสถานที่ซึ่งมีคนจำนวนมากไปร่วมทำกิจกรรมร่วมกันและมีโอกาสเสี่ยงการแพร่ระบาดเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามเงื่อนไขและเงื่อนเวลาตามความจำเป็นและเหมาะสมเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีประกาศอย่างอื่นแล้วนั้น
เพื่อให้การยกระดับมาตรฐานในมาตรการการเฝ้าระวังควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตในคราวประชุมครั้งที่ 10 / 2563 เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 และตามข้อสองในข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 1 กรณีเป็นการจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือจะกระทบต่อประโยชน์ตามสาธารณะตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการปกครองพ.ศ. 2539 จึงกำหนดให้ปิดสถานที่ซึ่งมีคนจำนวนมากไปทำกิจกรรมร่วมกันและมีโอกาสเสี่ยงการแพร่ระบาดเชื้อโรคโควิด-19 เพิ่มเติมตามเงื่อนไขและเงินเวลาตามความจำเป็นและเหมาะสมดังต่อไปนี้
1.ปิดสถานที่ชั่วคราวจนกว่าจะมีประกาศเป็นอย่างอื่นดังนี้
2.ปิดถนนสายบางลา( walking street) ที่กำหนดอยู่ในเขตพื้นที่บริเวณที่ 2 (อำเภอกระทู้) ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดภูเก็ตพ.ศ. 2546 ตลอดทั้งสายโดยห้ามบุคคล ยานพาหนะเข้าในถนนสายดังกล่าวตลอดเวลา ยกเว้นผู้ที่พำนักในเขตพื้นที่ดังกล่าวตามแผนที่ท้ายประกาศฉบับนี้เพื่อดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดในข้อ 11 (1) แห่งข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 ฉบับที่ 1 เป็นระยะเวลา 14 วันนับตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคมพ.ศ. 2563 ถึงวันที่ 10 เมษายนพ.ศ. 2563
3.หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศฉบับนี้จะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ. 2558 ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 (ฉบับที่1)
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคมพ.ศ. 2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศอย่างอื่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :