พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 หรือ ศบค. โดยก่อนการประชุมนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด โดยมีสีหน้าที่เรียบเฉย ซึ่งยังไม่ได้แสดงท่าทีเกี่ยวกับการเหตุการณ์สลายการชุมนุม และเหตุปะทะกัน ระหว่าง 2 กลุ่มที่หน้ารัฐสภาวานนี้ (17 พ.ย.) แต่อย่างใด
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุปะทะของกลุ่มราษฎรและกลุ่มเสื้อเหลือง ที่หน้าอาคารรัฐสภา วานนี้ ว่ารัฐบาลไม่อยากเห็นการใช้ความรุนแรงจากฝ่ายได้ฝ่ายหนึ่ง และอยากให้การชุมนุมเป็นไปอย่างสันติ พร้อมทั้งขอแสดงความเสียใจ รวมถึงแสดงความเป็นห่วงกับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชุมนุมในครั้งนี้ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ส่วนที่วันนี้กลุ่มราษฎร จะไปรวมตัวกันที่บริเวณแยกราชประสงค์ในเวลา 16.00 น. ตนก็อยากให้ชุมนุมกันอย่างสันติ
ส่วนการเผชิญหน้ากันของผู้ชุมนุมของกลุ่มราษฎรและมวลชนเสื้อเหลือง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ให้มาดูแลความปลอดภัยของผู้ชุมนุมทั้งสองกลุ่ม และรัฐบาลก็เป็นห่วงกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปดูแลการชุมนุมของทั้งสองกลุ่ม
ส่วนเหตุการณ์ที่มีกลุ่มบุคคลที่ไม่ทราบฝั่ง ใช้อาวุธปืนยิงผู้ชุมนุม พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่อยากเห็นการใช้อาวุธ ในระหว่างที่มีการชุมนุม และอยากให้การ ชุมนุมเป็นไปอย่างสันติ แม้จะเห็นต่างกัน แต่ก็อย่าใช้อารมณ์
สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ปล่อยให้ผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่าย มาเผชิญหน้าและปะทะกัน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การชุมนุมวานนี้มีหลายฝ่าย อีกทั้งเส้นทางเข้าออกมีหลายด้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายในจุดใดบ้าง แต่ก็ไม่อยากเห็นความรุนแรงเกิดขึ้น โดยอยากให้ผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่ายชุมนุมอย่างสันติ
พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ปฏิเสธตอบถึงกรณีเหตุการณ์สลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ และความรุนแรงระหว่างการชุมนุมของกลุ่มราษฎรและกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบันที่บริเวณแยกเกียกกายและถนนทหาร จนมีผู้ได้บาดเจ็บกว่า 50 คน โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เป็นหน้าที่ของตำรวจ