น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กขอโทษทีมอนาคตใหม่อย่างจริงใจ ต่อปัญหาการควบคุมเวลาการอภิปรายของพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า เสียใจและเข้าใจความรู้สึกของน้องๆ ทุกท่าน ที่มีความตั้งใจและทุ่มเทอย่างหนัก เพื่อการอภิปรายครั้งนี้ ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เรายอมรับความผิดพลาดเรื่องการไม่สามารถบริหารเวลาอภิปรายของสมาชิกบางท่าน และเราเห็นความสำคัญของปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันเป็นโจทย์ที่ฝ่ายรัฐบาลบีบเรา ด้วยการใช้เสียงข้างมาก เพื่อไม่ให้อภิปรายต่อ ทั้งๆ ที่สามารถขยายเวลาจาก 19.00 น.ไปได้ถึง 23.59 น. เกือบ 5 ชั่วโมง ดังนั้นเราจึงพยายามสู้กับฝ่ายรัฐบาลอย่างเต็มกำลังเพื่อขอต่อเวลาออกไป ซึ่งในประเพณีปฏิบัติของการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น วิปทั้ง 2 ฝ่าย สามารถเจรจาผ่อนผัน ยืดหยุ่นกันได้ตามสมควรโดยยึดเอาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก
"ในครั้งนี้กลับเกิดเหตุการณ์ที่วิปฝ่ายรัฐบาลยืนยันไม่ต่อเวลาให้ และพร้อมใช้เสียงส่วนมากโหวตปิดอภิปราย ซึ่งไม่เคยปรากฏเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน พวกเราจึงประชุมหารือกันและตกลงใจไม่เข้าร่วมโหวต เพื่อเป็นการบอยคอตรัฐบาลไม่ให้ใช้วิธีพวกมากลากไป เพราะเมื่อพิจารณาข้อดี-ข้อเสียกันรอบด้านแล้ว เราเห็นว่าหากรัฐบาลใช้วิธีพวกมากลากไป โดยการปิดอภิปรายทั้งๆที่ฝ่ายค้านยังอภิปรายรัฐมนตรีไม่ครบ ย่อมทำให้การอภิปรายครั้งนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ จึงไม่สามารถอภิปรายสรุปได้ด้วย ดังนั้นการที่รัฐบาลดึงดันลงมติครั้งนี้ จึงไม่ถูกต้อง เราจึงไม่เข้าไปร่วมลงมติด้วย"
น.อ.อนุดิษฐ์ ระบุว่า การลงมติไม่ไว้วางใจเมื่อวันที่ 28 ก.พ.63 เราอาจจะมีความเห็นในการใช้ยุทธวิธีที่แตกต่างกันบ้าง ซึ่งไม่มีใครถูกหรือผิด สำคัญตรงที่ยุทธศาสตร์ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ควรจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะพวกเรามีเป้าหมายเดียวกัน คือการไม่ยอมรับในอำนาจของเผด็จการฯ ในนามของพรรคเพื่อไทย ขอยืนยันว่า ไม่มีทางเป็นไปได้เลย ที่เราจะไปช่วย #เผด็จการ บุคลากรของเราร่วมกันต่อสู้กับอำนาจเผด็จการ มาอย่างยาวนานโดยไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรคต่างๆที่ถาโถมเข้ามาตลอด เราขอแสดงความเสียใจ และต้องขอโทษอีกครั้งกับข้อผิดพลาดทั้งหมด
"คนเพื่อไทยขอยืนยันว่าศัตรูของเราคือ #ระบอบเผด็จการ และจะทำทุกอย่างเพื่อถนอมน้ำใจของกันและกันไว้ให้ดีที่สุด เพื่อรวมพลังกันต่อสู้ให้สำเร็จ เพื่อพี่น้องประชาชนที่รอความหวังจากพวกเรา ณ วันนี้ซึ่งคนรุ่นใหม่ออกมารวมใจกันต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ พวกเราซึ่งเป็นนักการเมืองฝ่ายค้าน ยิ่งต้องสมัครสมานสามัคคี ต่อสู้เคียงกัน การต่อสู้ยังอีกยาวไกล จะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความรักความสามัคคีของพวกเรา"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง