ไม่พบผลการค้นหา
‘ชัยเกษม’ ฟาด 'ประยุทธ์' สร้างหนี้กองโต ทำให้ 'เพื่อไทย' ต้องคลอดนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล มากระตุ้นพลิกฟื้นวิกฤต ศก. ยันไร้ปัญหา กกต.ขอให้แจงที่มาของแหล่งเงิน ด้าน ‘เศรษฐา’ สวน ‘ประยุทธ์’ ไม่เข้าใจนโยบาย ‘เพื่อไทย’ แนะให้ไปอ่านให้เข้าก่อนวิจารณ์

วันที่ 7 เม.ย. 2566 ที่วัดพระธาตุแช่แห้ง อ.เมือง จ.น่าน เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ระบุถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม วิจารณ์นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) ให้กับประชาชนได้ใช้จ่าย 10,000 บาทของพรรคเพื่อไทย เสี่ยงจะทำให้ประเทศพัง ว่า อย่างที่ตนเคยเรียนไปแล้ว 8 ปีที่ผ่านมา ที่ผ่านมาประเทศบอบช้ำไปเยอะ จึงต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ พี่น้องประชาชนต้องการความช่วยเหลือจำนวนมาก ยืนยันการให้เงิน 10,000 บาทนั้นไม่ใช่ไม่มีที่มาที่ไป แต่การผลักดันนโยบายนี้ออกไป ทำให้มั่นใจว่าจะมีเงินกลับคืนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีนิติบุคคล ทั้งนี้ หากพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจให้เป็นรัฐบาลแล้ว ก็จะสามารถรีดงบประมาณประมาณ 2 แสนล้านบาทจากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ได้  

เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าในต่างประเทศมีการใช้เงินสกุลดิจิทัลทำให้หลายประเทศที่นำมาใช้ต้องล่มสลาย เศรษฐา ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์กำลังไม่เข้าใจที่พรรคเพื่อไทยกำลังทำคืออะไร  ตอนจึงขอให้ท่านไปอ่านนโยบายและทำความเข้าใจให้ดีก่อน

ขณะที่ ชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ตนคิดว่าพล.อ.ประยุทธ์หัวมาโยบายของพรรคเพื่อไทยเพราะว่าคนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ได้สร้างหนี้ไว้มากมายให้กับประเทศ ก็เลยห่วงว่าจะไม่สามารถกู้เงินได้ หาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สร้างหนี้ไว้ พรรคเพื่อไทยก็คงไม่ต้องคิดนโยบายนี้ออกมา

“ทุกอย่างที่พรรคเพื่อไทยทำนั้นคิดมาอย่างดีแล้ว เราทำเพื่อแก้ปัญหาที่รัฐบาลนี้ทำได้สร้างปัญหาให้กับประเทศ” ชัยเกษมกล่าวและว่า ส่วนการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียกชี้แจงนั้นไม่มีปัญหาแน่นอน

ส่วนกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้พรรคเพื่อไทยชี้แจงการจัดทำนโยบายดังกล่าวนั้น เศรษฐา ระบุว่า ทางกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยและคณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคยินดีที่จะชี้แจงต่อ กกต. และพร้อมเปิดเผยนโยบาย เพราะจะทำให้ประชาชนจะได้รับทราบอย่างเท่าเทียมกัน ยืนยันว่านโยบายนี้เป็นของดีและของใหม่และจะเป็นนโยบายหลักเพื่อฟื้นฟูจากสภาพที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนมา8-9 ปี

ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้พรรคเพื่อไทย ระบุว่าประเด็นนี้พรรคเพื่อไทยได้เสนอไปตาสนโยบายตามมาตรา57 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 การประกาศนโยบายได้ผ่านกรรมการบริหารพรรคและได้แจ้งต่อ กกต. ส่วนการเรียกให้ชี้แจงเรื่องที่มาแหล่งเงินมาจากตรงไหน ก็เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ได้ปฏิบัติตามนั้นอยู่ ตอนนี้ในรายละเอียดการชี้แจงกับ กกต.อยู่ระหว่างการดำเนินการ พร้อมย้ำว่า ผู้สมัคร ส.ส.400 เขตของพรรคจะข่วยชี้แจงเรื่องนี้ด้วย

เมื่อถามว่า หนี้สาธารณะที่รัฐบาลชุดนี้ได้สร้างไว้จะไม่สร้างปัญหาให้กับนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ เศรษฐา ระบุว่า แม้จะเป็นปัญหาแต่เราแก้ไขได้ พรรคเพื่อไทยอาสามาแก้ไขปัญหา 

นอกจากนี้ นพ.ชลน่าน ยังขอบคุณแคนดิเดตนายกฯ 3 คนของพรรคเพื่อไทยที่ลงพื้นที่ปราศรัยใหญ่ที่ จ.น่านเป็นเวทีแรกในต่างจังหวัดและเป็นจังหวัดแรกหลังพรรคเพื่อไทยเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ได้พบปะกับประชาชน

’เศรษฐา-ชัยเกษม’ นำ ‘เพื่อไทย’ ไหว้พระธาตุแช่แห้ง นำขบวนรถแห่หาเสียงภาคเหนือ

โดยก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ จ.น่าน แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย จักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคเพื่อไทย จาตุรนต์ ฉายแสง สุทิน คลังแสง คณะกรรมการด้านประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรม และความเสมอภาคเท่าเทียม ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ทรงยศ รามสูต และณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ ผู้สมัคร ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่วัดพระธาตุแช่แห้ง ซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดน่าน เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนทำกิจกรรมในจังหวัดน่าน

จากนั้นเวลา 15.30 น. นพ.ชลน่าน เศรษฐา ชัยเกษม และพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นำคณะพรรคเพื่อไทย เปิดกิจกรรมขบวนรถแห่ “กี๊ดใหญ่ทำเป็น” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันใน 8 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งเริ่มจุดแรกที่ประตูสู่ล้านนาจ.แพร่ เป็นที่แรกเมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา วันนี้ขบวนได้เคลื่อนมายังจุดใหญ่ คือ จ.น่าน ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปเข้าร่วมเวทีปราศัยใหญ่จังหวัดลำปางในวันที่ 9 เม.ย.และเคลื่อนตัวต่อไปยังอำเภอพาน จังหวัดเชียงรายตอนล่างในวันที่ 10 เม.ย.และเชียงรายตอนบนในวันที่ 11 เม.ย. โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอนจะมีเวทีคู่ขนานในวันเดียวกันด้วย จากนั้นจะปิดท้ายขบวนแห่ที่จังหวัด เชียงใหม่ในวันที่ 12 เม.ย.โดยจะมีขบวนจากจังหวัดลำพูนเข้าร่วมขบวนด้วย ซึ่งขบวนรถแห่ได้เคลื่อนไปรอบตัวเมืองน่าน 

เศรษฐา ชลน่าน ชัยเกษม น่าน IMG_9022.jpegเศรษฐา ชลน่าน  น่าน IMG_9019.jpegเศรษฐา ชลน่าน  น่าน IIMG_9017.jpegเศรษฐา ชลน่าน ชัยเกษม น่าน I IMG_9013.jpegเพื่อไทย เศรษฐา IMG_9012.jpegเศรษฐา ชลน่าน ชัยเกษม น่าน IIMG_9011.jpegพานทองแท้ น่าน เพื่อไทย  IMG_9005.jpegน่าน เพื่อไทย jpegเศรษฐา ชลน่าน จาตุรนต์ ขัตติยา น่าน I_9001.jpegเศรษฐา ชลน่าน พานทองแท้ น่าน IIMG_8999.jpeg