นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดนครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา รอลุ้นผลการนับคะแนนเลือกตั้งซ่อมที่ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง ปั้มน้ำมันประเสริฐชัยปิโตร อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พร้อมแกนนำพรรค ได้แก่ นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค, นายธีระ วงศ์สมุทร ที่ปรึกษาพรรค, นายอนุรักษ์ จุรีมาศ, นายอนุชา สะสมทรัพย์ รองหัวหน้าพรรค, นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรค และนายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา

นายเผดิมชัย กล่าวว่า ขอขอบคุณชาวนครปฐม ครอบครัวสะสมทรัพย์ และครอบครัวชาติไทยพัฒนา เรามีความสามัคคีกัน และชาวนนครปฐมเองก็มีความผูกพันกันมาช้านาน ขอขอบคุณเพื่อนร่วมงานที่เราหายุทธวิธีใช้คำว่าครอบครัวนครปฐมที่ตนรับใช้มานาน 30 ปี อีกทั้งวันนี้ครอบครัวของตนก็มารวมตัวกันทุกคน ทั้งภรรยา ลูกๆ และหลาน มาเป็นกำลังใจและมาหาเสียงช่วยกันนั่นคือพลังที่แท้จริง พลังสามัคคี

อีกทั้งยังขอบคุณนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่โทรมาหานางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคและโทรมาแสดงความยินดี ตนขอให้ได้ทำงานร่วมกันในสภาไม่ว่าจะอยู่ซีกไหนขั้วไหนก็ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติเราได้

นายเผดิมชัย กล่าวอีกว่า ยุทธวิธีของตนคือเข้าพบประชาชนเป็นกลุ่มย่อย โดยใช้รถยนต์ส่วนตัว และใช้คำว่าทุกคนที่อยู่นครปฐมคือครอบครัวเดียวกัน ไม่ว่าจะมาจากภูมิภาคไหน ทุกคนอยู่ร่มใบเดียวกันผม ร่มที่จะกันแดด ร่มที่จะกันฝน ซึ่งตนใช้ยุทธศาสตร์นี้ทุกหมู่บ้าน และพูดคุยเพื่อความสบายใจไม่ให้เกิดความแตกแยกและสร้างความอบอุ่นให้กับจังหวัดนครปฐม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ครั้งนี้ถือเป็นการทวงศักดิ์ศรีและการทวงคืนพื้นที่เลยหรือไม่

นายเผดิมชัย ตอบว่า เราไม่โทษครั้งที่แล้วว่าเกิดจากอะไรทั้งสิ้น แต่ก็พยายามทำการบ้าน เช่น เวลาดูทีวีก็จะเห็นข่าวประเทศญี่ปุ่นประสบภัยธรรมชาติ แล้วก็มาคิดต่อว่าเขาใช้ความสามัคคี และอีกสิ่งหนึ่งที่ตนยอมรับและต้องปรับตัวคือไม่รู้เรื่องเทคโนโลยีและไม่ทันที่จะรู้ว่าน้องๆ ผู้สมัครพรรคอื่นใช้โซเชียลมีเดีย รู้แค่ว่าเราไม่ค่อยเห็นรถหาเสียงหรือป้ายหาเสียงซึ่งเราไม่รู้ยุทธวิธีนี้

ขณะที่มีหลายคนสังเกตว่าพรรคชาติไทยพัฒนาไม่มีการปราศรัยใหญ่ ทั้งที่พรรคอนาคตใหม่และประชาธิปัตย์มาการปราศรัยใหญ่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ต.ค. 62)

นายเผดิมชัยเปิดเผยว่า ตอนแรกก็ปรึกษาหัวหน้าพรรคว่าเวลาสั้นมาก จะขอเปลี่ยนยุทธวิธีในการไปหาชาวบ้านเป็นกลุ่มย่อยแทน และยกเลิกเวทีปราศรัยใหญ่ที่ขออนุญาตไว้ว่าจะจัดวันที่ 20 ตุลาคมเช่นกัน

ส่วนผลคะแนนที่ออกมา ตอนแรกก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรเพราะครั้งที่แล้วคะแนนหายไปเยอะมาก แต่ทั้งนี้เมื่อได้กลับคืนมาตนก็จะตอบแทนชาวนครปฐมด้วยการทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยและเต็มที่ ทั้งนี้ยังขอบคุณพรรคพลังประชารัฐและรัฐบาลที่ใจกว้างใช้พรรคชาติไทยพัฒนาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งอีก ทั้งที่คะแนนก็น้อยกว่าพรรคประชาธิปัตย์ และมีภาษีน้อยกว่าพรรคพลังประชารัฐมีเป็นแกนนำจะจัดตั้งรัฐบาลและกำลังมีผลงาน นั่นเป็นเพราะรัฐบาลอยากให้มีความเป็นประชาธิปไตยแท้จริง

ด้านนางสาวกัญจนา กล่าวว่า รู้สึกดีใจและขอบคุณตระกูลสะสมทรัพย์ ขอบคุณพี่น้องชาวนครปฐมเขต 5 ทุกคน และสัญญาว่าจะทำงานเพื่อรับใช้ชาวนครปฐมเต็มที่ และดีใจที่ทำคะแนนให้รัฐบาลได้อีก 1 เสียง

เรื่องการกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันพุธจะส่งผลให้พรรคของตนได้เปรียบและพรรคอนาคตใหม่เสียฐานเสียงกลุ่มผู้ใช้แรงงานหรือไม่ นางสาวกัญจนา กล่าวว่า ไม่มีความเห็น เพราะเราไม่ได้กำหนดวันเลือกตั้ง เป็นเรื่องของ กกต. อีกทั้งการกำหนดวันปิยมหาราชก็เป็นวันหยุดราชการเหมือนกัน ถ้าจะมีพรรคไหนได้เปรียบตรงนี้ก็คงได้เปรียบเหมือนกัน หรือถ้าเสียเปรียบก็เสียเปรียบเหมือนกัน

พร้อมทั้งฝากถึง นายปิยบุตร ที่โทรมาขอแสดงความยินดีว่าพรรคเราจะได้ไปทำงานร่วมกันในสภาไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็สามารถทำงานร่วมกันได้หมด

หลังจากนั้นหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาขอบคุณและคล้องพวงมาลัยดอกไม้ให้กับนายเผดิมชัย ผู้สมัคร ส.ส. พรรคชาติไทยพัฒนา ท่ามกลางความยินดีของแกนนำพรรคและญาติๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการเวลา 21.00 น. พรรคชาติไทยพัฒนา ได้คะแนน 38,765 เสียง นำมาเป็นลำดับที่ 1 ตามด้วยพรรคอนาคตใหม่ 28,882 เสียง ห่างกัน 9,883 เสียง และลำดับที่สามคือพรรคประชาธิปัตย์ 13,061 เสียง โดยพี่น้องตระกูลสะสมทรัพย์เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาตั้งแต่ พ.ศ. 2529