สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้จัดการประชุมระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์จีนและพรรคการเมืองกว่า 500 พรรคจาก 160 ประเทศทั่วโลก เมื่อ 6 กรกฎาคม 2564 ผ่านการประชุมแบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมีประเด็นหลักคือการพูดถึงความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนและความรับผิดชอบของพรรคการเมือง ส่วนสำคัญตอนหนึ่งของการประชุมคือ ผู้นำแดนมังกรได้กล่าวต่อพรรคการเมืองที่เข้าร่วมประชุมถึงอุปสรรคที่ทำให้การพัฒนาของจีนและประเทศอื่น ๆ ต้องหยุดชะงักว่า “เราต้องร่วมกันต่อต้านความพยายามที่จะปิดล้อมทางเทคโนโลยีและการพัฒนาแบบแยกตัว” อีกทั้งยังพาดพิงถึงชาติมหาอำนาจ​ ว่าเป็นอุปสรรคต่อพรรคคอมมิวนิสต์และความร่วมมือระหว่างจีนกับประเทศอื่น

อุปสรรคสำคัญทั้ง 2 ประการที่นายสี ได้กล่าวถึงประการแรก คือการปิดล้อมทางเทคโนโลยี อันเป็นกลยุทธ์ของสหรัฐฯ และเหล่าประเทศพันธมิตรจากสหภาพยุโรปและญี่ปุ่น มักใช้เพื่อปิดล้อมจีนไม่ให้เข้าถึงความสามารถทางด้านเทคโนโลยี สอดคล้องกับนักการทูตจีนที่มักวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายทำเนียบขาวเสมอว่า “พยายามขัดขวางการพัฒนาของจีนด้วยการปิดกั้นการเข้าถึงเทคโนโลยีของสหรัฐฯ”

สำหรับการพัฒนาแบบแยกตัว (decoupling of development) สำนักข่าว US News รายงานว่า วลีดังกล่าวเป็นคำขวัญที่มาจากสหรัฐฯ เพื่อให้ประเทศอื่นยุติการพึ่งพาสายอุปทานของจีนเช่น ผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยี สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ ซึ่งหากมีประเทศที่ยุติการพึ่งพาจีน จะถือว่าเป็นการแยกตัวออกจากการพัฒนาและความร่วมมือกับจีน ดังนั้นสีจิ้นผิงจึงต่อต้านวลี “decoupling of development”

ผู้นำจีนยังได้พูดถึงการแก้ปัญหาความยากจนในประเทศและการพัฒนารูปแบบใหม่ที่จีนทำได้สำเร็จหลังจากนั้น สี จิ้นผิงได้กล่าวย้อนว่า จีนกำลังจะแบ่งปันประสบการณ์ความสำเร็จนี้ร่วมกับประเทศอื่นและไม่ควรมีประเทศใดมา “ขัดขวางการพัฒนา”

แม้จะไม่มีการเอ่ยชื่อประเทศที่เป็นอุปสรรคขัดขวางอย่างตรงไปตรงมา แต่การพาดพิงถึงสหรัฐ ฯ เริ่มชัดเจนมากขึ้นเมื่อ สี ได้กล่าวถึงสิ่งที่จีนเคยเผชิญกับนโยบายอเมริกาต้องมาก่อน(America First) ว่า “จากมุมมอง ‘ประเทศของฉันต้องมาก่อน’ โลกนั้นดูคับแคบ กดดัน และเต็มไปด้วยการแข่งขันที่โหดร้าย” สี กล่าวถึงนโยบายของสหรัฐฯ ในสมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ที่เป็นชนวนสร้างการแข่งขันกับจีน ซึ่งในสายตาของทำเนียบขาว รัฐบาลปักกิ่งถือเป็นคู่แข่งทางยุทธศาสตร์มาโดยตลอด

'สี' ยังเรียกร้องให้แต่ละฝ่ายร่วมกันสร้างสรรค์ประชาคมโลกที่มีอนาคตสดใสร่วมกัน ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า ประเทศใดก็ตามที่มีส่วนร่วมในการปิดล้อมเทคโนโลยีและการพัฒนาแบบแยกตัว ประเทศเหล่านั้นควรถูกปฏิเสธที่จะร่วมภารกิจดังกล่าว

ที่มา: Reuters , USNews , AP , GlobalTimes