ไม่พบผลการค้นหา
'สตาร์บัคส์' ประกาศให้ 'คอฟฟี่ คอนเซ็ปต์' กิจการร่วมค้าแม็กซิมส์ฯ ฮ่องกง และ F&N เครือไทยเบฟฯ ได้สิทธิบริหารร้านกาแฟสตาร์บัคส์ในประเทศไทย สำนักข่าวต่างประเทศคาดดีลนี้มูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท ขณะที่บริษัทแม่มุ่งดูแลธุรกิจในตลาดจีน-สหรัฐ

บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) เผยแพร่แถลงการณ์จากสำนักงานใหญ่สตาร์บัคส์ เมืองซีแอตเทิล มลรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกาวันนี้ (24 พ.ค.) ระบุว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ประกาศลงนามในสัญญากับบริษัท คอฟฟี่ คอนเซ็ปต์ ประเทศไทย ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้าของบริษัท แม็กซิมส์ เคเทอร์เรอร์ จำกัด (Maxim’s Caterers Limited) ในฮ่องกง และ บริษัท เอฟแอนด์เอ็นรีเทล คอนเนคชั่น จำกัด (F&N Retail Connection Co., Ltd.) ธุรกิจในเครือไทยเบจฯ เป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในการบริหารธุรกิจค้าปลีกของสตาร์บัคส์ในประเทศไทย

ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปลายเดือน พ.ค. นี้

'จอห์น คัลเวอร์' ประธานกลุ่มบริษัทสตาร์บัคส์ อินเตอร์เนชันแนล ฝ่ายพัฒนาช่องทางจำหน่ายและผลิตภัณฑ์กาแฟและชา กล่าวในแถลงการณ์ข้างต้นว่า เรามีความยินดีที่ได้มอบสิทธิ์ในการบริหารธุรกิจแก่ บริษัท แม็กซิมส์ เคเทอร์เรอร์ จำกัด และ บริษัท เอฟแอนด์เอ็นรีเทล คอนเนคชั่น จำกัด ที่มีความมุ่งมั่นในการขยายโอกาสการเติบโตของสตาร์บัคส์ในประเทศไทยอย่างเต็มกำลัง

'ไมเคิล วู' ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการบริษัท แม็กซิมส์ เคเทอร์เรอร์ จำกัด กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้เป็นผู้ส่งมอบ ประสบการณ์สตาร์บัคส์ ให้กับลูกค้า ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจในประเทศไทยต่อไป และตั้งตารอที่จะได้นำความเชี่ยวชาญของบริษัท กับความตระหนักเข้าใจอย่างถ่องแท้ในวัฒนธรรมและแบรนด์สตาร์บัคส์ที่ได้สั่งสมมา เพื่อมอบบริการที่ดีให้กับลูกค้าผ่านพาร์ทเนอร์ (พนักงาน) ผู้ซึ่งมีความรู้และความลุ่มหลงในกาแฟ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจต่อไป

อย่างไรก็ตาม วานนี้ (23 พ.ค.) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ออกเอกสารแจ้งนักลงทุน ระบุว่า บริษัทมีความประสงค์จะจัดตั้งกิจการร่วมค้าใหม่ 2 ราย คือ MX Caterers (Asia) Pte. Ltd. หรือ MXCA ซึ่งเป็นบริษัทภายนอกที่ไม่เกี่ยวโยงกัน จัดตั้ง และจดทะเบียนที่สิงคโปร์ กับ F&N Retail Connection Co., LTD. หรือ FNRC จัดตั้งและจดทะเบียนที่ประเทศไทย (เอฟแอนด์เอ็นเป็นบริษัทที่ไทยเบฟเวอเรจถือหุ้นอยู่) เพื่อทำกิจการในฐานะโฮลดิ้งส์ ลงทุนในธุรกิจเครื่องดื่ม ซึ่งมีวัตุประสงค์ลงทุนใน 2 ธุรกิจ ได้แก่

  • Max Asia Food & Beverage (Thailand) Co., LTD. หรือ MAFB ซึ่งบริษัทร่วมจัดตั้งในประเทศไทย โดย FNRC ถือหุ้นร้อยละ 70 ขณะที่ MXCA และ Coffee Concepts (Hong Kong) Limited หรือ CCHK ถือหุ้นประมาณร้อยละ 29.9995 และ 0.0005 ตามลำดับ ทั้งนี้ MAFB มีทุนจดทะเบียนบริษัท 2 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 2 แสนหุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท
  • Coffee Concepts (Thailand) Co., Ltd. หรือ CCT เป็นบริษัทร่วมจัดตั้งในประเทศไทย โดย MAFB ถือหุ้นร้อยละ 51 ขณะที่ MXCA และ CCHK ถือหุ้นร้อยละ 48.999 และ 0.001 ตามลำดับ โดย CCT มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญจำนวน 1 แสนหุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท

พร้อมกับยืนยันว่า การลงทุนข้างต้นมาจากเงินระดุมทุนภายใน และจะไม่มีผลกระทบต่อกำไรต่อหุ้น (EPS) สินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในปีงบการเงินนี้

ไทยเบฟ-สตาร์บัคส์

นั่นหมายถึง ภายหลังข้อตกลงนี้ อำนาจการบริหารสตาร์บัคส์จะอยู่ในมือของไทยเบฟเวอเรจ (ผ่าน FNRC) และ แม็กซิมส์ เคเทอร์เรอร์ ภายใต้ชื่อ 'บริษัท คอฟฟี่ คอนเซ็ปต์ ประเทศไทย'

ขณะที่ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก วิเคราะห์ว่าดีลการเปลี่ยนมือในการบริหารครั้งนี้ เป็นผลมาจากความพยายามของสตาร์บัคส์ที่จะลดภาระในการบริหารของ เควิน จอห์นสัน ซีอีโอสตาร์บัคส์ เพื่อหันกลับไปมุ่งความสนใจกับตลาดที่สำคัญที่สุด 2 ตลาด คือสหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งที่ผ่านมาได้ลงทุนขยายตลาดในจีนเพื่อเพิ่มการเติบโต เนื่องจากมองว่าการเติบโตในสหรัฐฯ ถึงจุดอิ่มตัวแล้ว อย่างไรก็ตาม สตาร์บัคส์ยังคงต้องแข่งขันกับธุรกิจท้องถิ่นในจีน และเศรษฐกิจในจีนเองก็เริ่มชะลอตัว



starbuckscoffee

สตาร์บัคส์ได้เดินหมากในลักษณะนี้มาก่อนแล้ว โดยลดภาระการบริหารธุรกิจของบริษัทในตลาดที่มีความสำคัญรองลงมาอย่างฝรั่งเศส กลุ่มประเทศในยุโรป ไต้หวัน และฮ่องกง 

ด้านแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อของบลูมเบิร์ก ประเมินว่าดีลนี้จะมีมูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 16,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัท แม็กซิมส์ เคเทอร์เรอร์ จำกัด เป็นผู้ดำเนินการร้านสตาร์บัคส์กว่า 400 สาขา ในตลาดกัมพูชา ฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ และเวียดนาม ซึ่งมีการจ้างงานพาร์ทเนอร์ (พนักงาน) กว่า 6,000 คน ในทั้ง 5 ตลาด ภายใต้กิจการร่วมค้าใหม่นี้ แม็กซิมส์ เคเทอร์เรอร์ จะเป็นผู้ดูแลธุรกิจค้าปลีกและการขยายสาขาในตลาดประเทศไทยต่อไป

ด้านสตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ไทยแลนด์ เริ่มเปิดสาขาแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2541 ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลมและปัจจุบันมี 372 สาขาทั่วประเทศ

อ้างอิง : Bloomberg