ไม่พบผลการค้นหา
ไม่ว่าถึงที่สุด พรรคเพื่อไทยจะสามารถจับมือกับพรรคการเมืองที่ไม่เอาการสืบทอดอำนาจ ให้สามารถเดินไปสู่ฝั่งฝัน ปั้นนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยได้สำเร็จหรือไม่ แต่การลงนามใน 'สัตยาบันแลงคาสเตอร์' วันนี้ ถือได้ว่าเป็นการยกระดับวัฒนธรรมการเมือง-วัฒนธรรมประชาธิปไตยที่เป็นสากล สร้างสรรค์และเป็นมาตรฐานใหม่ในการเมืองไทย และเป็นก้าวย่างที่กล้าหาญของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย

วาระการเมืองที่สำคัญจาก 'สัตยาบันแลงคาสเตอร์' คือ การยืนยันในเชิงคณิตศาสตร์การเมืองว่าพรรคทั้ง 7 พรรคในฝ่ายประชาธิปไตย มีตัวเลขเก้าอี้ทะลุ 251 เสียงไปแล้ว ด้วยหลักการนี้ พวกเขามีความชอบธรรมที่จะได้จัดตั้งรัฐบาลและเป็นรัฐบาลบริหารประเทศต่อไป

การยืนยันถึงเป้าหมายทางการเมืองของพวกเขา ว่าเป็นการมาด้วยเป้าใหญ่ที่จะ “รวมพลังหยุดสืบทอดอำนาจเผด็จการ สร้างรัฐบาลประชาธิปไตย”

การยืนยันหลักการที่ว่าพรรคการเมืองที่มีชัยในการเลือกตั้งเป็นลำดับที่ 1 มีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลก่อน และมีความชอบธรรมที่จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเบอร์ 1 จากพรรคของตัวเองเป็นนายกฯ

'ธนาธร' ประกาศชัดเจนในประเด็นนี้ “พรรคอนาคตใหม่ยืนยันจะสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 จากพรรคที่ชนะเลือกตั้งลำดับที่ 1 และนายกรัฐมนตรีที่เหมาะสมกับประเทศไทย ในเวลานี้ที่สุดคือคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์”

'ธนาธร' ยังเปิดประเด็นในเชิงวัฒนธรรมการเมือง-วัฒนธรรมประชาธิปไตยว่า เมื่อพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย สามารถรวมคณิตศาสตร์การเมืองได้ทะลุ 251 เสียง ก็ทำให้พรรคการเมืองเสียงข้างน้อย “ไม่ควรดึงดันตั้งรัฐบาล” เพราะจะรังแต่ให้เกิดความวุ่นวายต่อสังคมและทำให้สังคมไปสู่ทางตัน

และยังถือโอกาสชวนพรรคการเมืองที่เหลือมาร่วมกันปิดสวิตซ์ 250 ส.ว. สอดรับกับประเด็นที่พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยต้องการจุดขึ้นในสังคมไทย 1 ข้อ นั่นคือหลังจากนี้ บรรดา 250 ส.ว.ทั้งหลายที่มาจากการแต่งตั้งทั้งโดยตรงและโดยอ้อมจาก คสช. จะต้องเคารพเจตนารมณ์ของประชาชน จะต้องเคารพผู้แทนจากประชาชน ด้วยการไม่มีบทบาทในการเลือกนายกรัฐมนตรี ปล่อยให้การเลือกนายกรัฐมนตรีจบในสภาล่าง

สื่อบางแห่งขนานนามเรียกการแถลงข่าววันนี้ว่าเป็น การจัดตั้ง 'รัฐบาลสุดารัตน์'

ฉากที่สำคัญคือการประกาศในช่วงสุดท้ายของหญิงหน่อย

“เราจะยุติการสืบทอดอำนาจ

เราจะสร้างวัฒนธรรมการเมืองที่สร้างสรรค์

เราจะไม่ทำอะไรนอกกติกา

เราจะไม่ทำอะไรไร้มารยาททางการเมือง

เราขอเรียกร้องต่อพรรคการเมืองอื่นให้มาร่วมกันเอาประชาธิปไตยกลับคืนมา

ถ้าพรรคการเมืองไม่ร่วมกันทำภารกิจหยุดยั้งสืบทอดอำนาจกันในวันนี้ จะเป็นตราบาปไปอีกยาวนาน”

สัตยาบัน-จัดตั้งรัฐบาล-หยุดสืบทอดอำนาจ-คสช

(27 มี.ค. - 7 พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ประกาศจัดตั้งรัฐบาล พร้อมลงสัตยาบันร่วมกันในการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.)

'สัตยาบันแลงคาสเตอร์' เป็นการรวมตัวกันของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งรู้กันดีว่าการเดินทางจนกว่าจะจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีความพยายามจากฝ่ายเผด็จการในการทำลายตัดแข้งตัดขาในทางการเมืองอยู่ตลอดเวลา

ทุกพรรครู้ดีว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จต้องใช้เสียง 376 ที่นั่งขึ้นไปของรัฐสภาที่มีจำนวนทั้งหมด 750 คน เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีแล้วไปจัดตั้งรัฐบาล

'สัตยาบันแลงคาสเตอร์' เป็นการส่งสัญญาณเชิญชวนพรรคการเมืองอื่นๆ ให้มาร่วมกันบรรลุคณิตศาสตร์การเมืองให้จบตั้งแต่ในสภาล่าง ปลดล็อกประเทศจากกลไกบิดเบี้ยวของ คสช.ที่วางไว้เพื่อการสืบทอดอำนาจ

'สัตยาบันแลงคาสเตอร์' เป็นการยกระดับวัฒนธรรมการเมือง-วัฒนธรรมประชาธิปไตยที่เป็นสากล สร้างสรรค์และเป็นมาตรฐานใหม่การเมืองไทย และเป็นก้าวย่างที่กล้าหาญของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย

มีคำถามหนึ่งโยนไปยัง 'ภูมิธรรม' ว่า จนกว่าถึงวันเลือกนายกรัฐมนตรี จะยังสามารถจับมือกับทุกพรรคที่ลงนามในวันนี้ไปได้อย่างไร เพราะการเมืองเปลี่ยนตลอด โดยเฉพาะการเมืองของงูเห่า และการเมืองของการต่อรองตำแหน่ง

'ภูมิธรรม' ตอบโดยนัยว่า “ประชาชนเป็นคนโอบอุ้มเรา.. เรามาจากฉันทามติว่าไม่ต้องการสืบทอดอำนาจเผด็จการ เพราะฉะนั้นบรรดาพรรคการเมืองก็จะต้องตระหนักถึงคนที่โอบอุ้มเราและจุดยืนทางการเมืองที่เราได้เคยประกาศไว้ก่อนการเลือกตั้ง”

ความจริง 1 ข้อ ก็คือ ในสนามการเลือกตั้ง 62 หลายพรรคการเมือง เว้นพรรคพลังประชารัฐ พรรคกำนันสุเทพ พรรคไพบูลย์ ได้ประกาศจุดยืนที่ชัดไว้ในหลายประเด็น เช่น ไม่เอาประยุทธ์, ไม่เอาการสืบทอดอำนาจ, ไม่เอา 250 ส.ว. ทว่าวันนี้พรรคที่ได้เคยประกาศจุดยืนเช่นนั้นไว้ ล้วนแล้วแบ่งรับแบ่งสู้ในทางการเมือง สัตยาบันฉบับนี้จึงเป็นการเชิญชวนให้พรรคการเมืองเหล่านั้นกลับสู่หลักการที่ควรจะเป็น

ก้าวย่างที่กล้าหาญวันนี้ ทำให้แม้ว่าบรรทัดสุดท้ายจะลงเอยอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือเป็นฝ่ายค้าน ถือเป็นความสง่างามในท่ามกลางกติกาอันบิดเบี้ยวทางการเมือง-ความพยายามในการตัดตอนประชาธิปไตย

ก้าวย่างที่กล้าหาญวันนี้ เป็นการสร้างศรัทธาคืนกลับสู่การเมืองระบบรัฐสภา เป็นการชวนสังคมไทยให้กลับมาสนทนา และให้ความสำคัญกับการปักธงเรื่องวัฒนธรรมการเมือง-วัฒนธรรมประชาธิปไตยที่ควรจะเป็นซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกทำลายไปจากสังคมตลอดหลายปีที่ผ่านมา

วยาส
24Article
0Video
63Blog