ไม่พบผลการค้นหา
โปรเจกต์ WePark ให้เช่าที่จอดรถสาธารณะสำหรับทำงาน ชูจุดเด่นด้านความสะดวก และราคาประหยัด จนเกิดเป็นกระแสไปทั่วโลก

WePark คือโปรเจกต์ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในแดนลุงแซม และหัวเมืองใหญ่ทั่วโลก ด้วยบริการเปลี่ยนที่จอดรถสาธารณะให้กลายเป็นโคเวิร์คกิ้งสเปซ

“ถ้าเราเริ่มต้นสร้างเมืองใหม่อีกครั้ง เรายังจะสร้างที่จอดรถเหมือนที่มีอยู่ตอนนี้หรือเปล่า ผมว่าอาจจะไม่” ประโยคของ วิคเตอร์ พอนทิส (Victor Pontis) เจ้าของโปรเจกต์ WePark ทำให้หลายคนฉุกคิดว่าเราใช้ประโยชน์จากพื้นที่จอดรถได้อย่างคุ้มค่าหรือเปล่า

เพื่อเป็นการตอบคำถามดังกล่าว พอนทิส ตัดสินใจเปลี่ยนที่จอดรถสาธารณะในบริเวณศาลาว่าการของเมืองซานฟรานซิสโก ให้กลายเป็นโคเวิร์คกิ้งสเปซกลางแจ้งแบบชั่วคราว ก่อนจะมีผู้ให้ความสนใจทยอยเดินทางมาใช้บริการ และนั่งทำงานร่วมกันบนเก้าอี้พับได้ และโต๊ะแบบพกพา 


Picfrom twitter wepark1.jpg
  • ผู้ใช้บริการ WePark ในซานต้า โมนิก้า / ภาพจาก WePark 

ผู้มาใช้บริการหลายคนใช้พื้นที่ดังกล่าวสำหรับมื้อกลางวันของตัวเองก่อนจะกลับไปที่สำนักงานของพวกเขา ในขณะที่ชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอ่านเอกสารก่อนการประชุมด้วยแสงของดวงอาทิตย์แทนที่หลอดนีออน และในช่วงสายของซานฟานซิสโก กลุ่มนักปั่นจักรยานแวะเวียนมาใช้บริการก่อนจะวางชามที่เต็มไปด้วยลูกกวาดลงบนโต๊ะและพูดว่า “เหมือนสำนักงานจริงๆ!”

เหตุการณ์น่าทึ่งนี้เองกลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดีย และทำให้ผู้สนใจโปรเจกต์นี้ เริ่มร่วมตัวกันใน บริสตอล, ลอส แอนเจลลิส และพอร์ตแลนด์ พร้อมวางแผนเปลี่ยนที่จอดรถสาธารณะให้กลายเป็นสำนักงานชั่วคราวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า 

ค่าบริการเป็นมิตร และพื้นที่สาธารณะทำให้รู้สึกปลอดภัย 

นอกจากโปรเจกต์ดังกล่าว พอนทิส ยังเป็นผู้ก่อตั้ง Scooter Map แอปพลิเคชันที่ช่วยผู้ใช้งานค้นหาสกูตเตอร์ไฟฟ้าจากผู้ให้บริการมากหน้าหลายตา เขาบอกว่าตนเองได้แรงบันดาลใจในการทำ WePark จากที่จอดรถจักรยานแบบเคลื่อนที่ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับรถพ่วง มี 4 ล้อ และทะเบียน มีขนาดเท่ารถยนต์ 1 คัน ทำให้สามารถจอดจักรยานได้มากถึง 8 คัน ทำให้ พอนทิส เกิดไอเดียการทำพื้นที่จอดรถสาธารณะมาให้บริการที่หลากหลายกว่าหน้าที่ดั้งเดิม


Picfrom twitter wepark2.jpg
  • โปรเจกต์ WePark คิดค่าบริการต่อชั่วโมงเพียง 2.25 ดอลลาร์ / ภาพจาก WePark 

หลังจากเปิดตัวสำนักงานใหม่ของเขาในวันที่ 29 เมษายน บนทำเลทองที่ตั้งอยู่ข้างถนน ก็มีชาวเมืองเข้ามาใช้งานเป็นจำนวนมาก เพราะสิ่งที่พวกเขาต้องจ่ายเพื่อแลกกับโต๊ะและเก้าอี้สำหรับนั่งทำงานในสถานที่สุดพิเศษและแปลกใหม่ มีค่าบริการต่อชั่วโมงเพียง 2.25 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าถูกมากหากเทียบกับราคาของโคเวิร์คกิ้งสเปซทั่วไปในอเมริกา เช่น WeWork คิดค่าบริการประมาณ 50 ดอลลาร์/วัน บวกค่าสมาชิกรายเดือน 

พอนทิสบอกว่า แทนที่จะเป็นจุดหมายของผู้ใช้งานรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ ที่จอดรถสาธารณะกลายเป็นโคเวิร์คกิ้งสเปซที่มีประสิทธิภาพมากๆ ผู้คนที่ต้องการทำงานสามาถใช้ไวไฟฟรีของซานฟรานซิสโกได้อย่างเต็มที่ แต่ในระหว่างที่หน้าจอของโน๊ตบุ๊คปิดลงเพื่อเป็นเวลาสำหรับอาหารกลางวันหรือพักผ่อน บทสนทนาก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

ผู้หญิงคนหนึ่งเดินทางมาที่โคเวิร์คกิ้งสเปซ เพื่อเริ่มต้นภารกิจในการต่อสู้กับจิ๊กซอว์ขนาด 1,000 ชิ้น และได้รับความช่วยเหลือจากชายหนุ่มอีกคนหนึ่งเกือบจะในทันทีที่เธอหย่อนร่างกายลงบนเก้าอี้ ระหว่างที่จิ๊กซอว์กำลังประกอบร่างเธอเริ่มต้นสนทนากับเพื่อนร่วมภารกิจเกี่ยวกับความยากลำบากในการหางานทำ ก่อนที่เขาจะเริ่มพูดเกี่ยวกับงานของตนเอง ทำให้พอนทิส เชื่อว่าโคเวิร์คกิ้งสเปซในลักษณะนี้จะมีบรรยากาศที่ดีเป็นพิเศษ เพราะอยู่ในพื้นที่สาธารณะที่ทำให้ผู้มาใช้งานรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น 

“ไม่มีใครที่ WePark รู้สึกว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องล็อกจักรยานของตนเอง พวกเขาทิ้งกระเป๋าไว้บนที่นั่งเมื่อพวกเขาเดินไปซื้อกาแฟ ผู้คนหลั่งไหลเข้ามามีส่วนร่วมและพูดคุยกับเรา ตอนนี้เรามีที่จอดรถ (โคเวิร์คกิ้งสเปซ) เพียงแห่งเดียว จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีคนและที่จอดรถมากกว่านี้”

อนาคตของพื้นที่สาธารณะ 

WePark สะท้อนให้เห็นความพยายามของซานฟรานซิสโกเกี่ยวกับพื้นที่สาธารณะ ในปี 2005 พวกเขาเริ่มต้นการทำ Parklets ซึ่งเป็นการเปลี่ยนที่จอดรถข้างถนนให้กลายเป็นสวนสาธารณะขนาดเล็ก และทำไปสู่การเคลื่อนไหวระดับโลกอย่าง PARK(ing) Day ซึ่งเป็นวันแห่งการเปลี่ยนพื้นที่จอดรถให้กลายสถานที่สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ อาทิ สวนสาธารณะ นิทรรศการศิลปะ หรือร้านค้า 

แม้ Parklets จะได้รับความเป็นนิยมแต่โครงการก็ถูกยุติลงชั่วคราวในปี 2015 - 2018 เมื่อแผนกผังเมืองเตรียมตัวเปลี่ยนแปลงจากโครงการนำร่องเป็นโครงการถาวร แต่เมื่อกลับมาเริ่มดำเนินการอีกครั้งเมื่อปลายปีที่แล้วก็เกิดปัญหาขึ้นเมื่อร้านอาหารจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อติดตั้ง Parklets เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการของตนเอง สร้างเสียงวิจารณ์ตามมาจำนวนมากเมื่อประชาชนมองว่าไม่ควรจ่ายค่าบริการเพื่อใช้งานพื้นที่สาธารณะ

อย่างไรก็ตามตอนนี้ WePark ได้กระจายไปทั่วโลก ริมถนนของตูลูส เมืองทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ผู้คนจ่ายเงินเพียง 1.50 ยูโร / ชั่วโมง แลกกับสถานที่ในการทำงาน และพวกเขาวางแผนที่จะทำการเรียกร้องสิทธิการใช้งานที่จอดรถสาธารณะ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ 

แม้ว่าพอนทิส จะยอมรับว่า WePark ถูกมองว่าเป็นเพียง ‘เรื่องล้อเล่น’ ระดับประเทศ แต่เขาคิดว่าโปรเจกต์นี้จะเป็นการเรียกร้องความสำคัญของพื้นที่สาธารณะที่จำเป็นสำหรับทุกคน “คุณสามารถใช้พื้นที่นี้ แม้มันจะเป็นเพียงพื้นยางมะตอยที่อยู่ใต้ดวงอาทิตย์ คุณแค่ต้องการโต๊ะและเพื่อนๆ” 

ที่มา :

On Being
198Article
0Video
0Blog