อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของหรือผู้ครอบครองพื้นที่กักเก็บถังของเสียโรงงานของบริษัท ไมด้า วัน จำกัด ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา แม้โรงงานยกเลิกการประกอบกิจการแล้ว แต่ยังมีการกักเก็บของเสียที่เป็นของเหลวภายในโรงงาน โดยมีถังเก็บของเสีย 11 ถัง ข้อต่อถังที่ 1 และ 2 ชำรุดทำให้มีของเหลวรั่วไหลออกจากถัง ลักษณะสีดำและมีกลิ่นเหม็นรุนแรงภายในบริเวณโรงงาน

เบื้องต้นเทศบาลตำบลท่าข้ามได้ซ่อมแซมข้อต่อของแทงค์เรียบร้อยแล้ว นำกระสอบทรายมาปิดกั้น เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเสียออกสู่ภายนอกโรงงาน แต่พบว่าบริเวณรางระบายน้ำซึ่งเป็นรางดินอยู่ติดกับโรงงานเชื่อมต่อกับคลองพานทองน้ำภายในรางดังกล่าวมีสีดำและมีกลิ่นเหม็นคล้ายกับของเสียที่รั่วไหลออกจากถังเก็บของเสีย จากการตรวจสอบมลพิษเบื้องต้นมีค่าความเป็นด่างสูง มีความเค็ม และค่าการนำไฟฟ้าสูง

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ คพ.เก็บตัวอย่างน้ำจากบริเวณรางดินและในคลองพานทอง เพื่อตรวจพิสูจน์การปนเปื้อนของน้ำเสียพบว่า ยังคงมีลักษณะเป็นปกติ แต่เพื่อป้องกันการแพร่กระจาย จึงประสานเทศบาลตำบลท่าข้ามให้นำกระสอบทรายมาปิดรางดินระบายน้ำดังกล่าวไม่ให้ไหลลงคลองพานทอง 

ส่วนการแจ้งความนั้น จะดำเนินคดีหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษฐานเป็นเหตุให้เกิดของเสียรั่วไหลลงรางดินที่เชื่อมต่อกับคลองพานทอง ตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 พร้อมทั้งตรวจพิสูจน์สารเคมีที่กักเก็บอยู่ว่าเป็นวัตถุอันตรายจำพวก 2 หรือจำพวก 3 หรือไม่ หากใช่ เจ้าของหรือผู้ครอบครองจะมีความผิดฐานครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต

อรรถพล กล่าวต่อว่า วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำชับให้ติดตามตรวจสอบแหล่งที่มีการเก็บของเสียหรือสารเคมีหรือปล่อยมลพิษที่ผิดกฎหมายอย่างเข้มข้น ให้จัดลำดับความสำคัญของปัญหา ทั้งด้านผลกระทบและเชิงพื้นที่ ที่ คพ.ต้องรู้ และเข้าไปจัดการทั้งในด้านการบริหารและการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม