วันที่ 11 เมย. สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงสงกรานต์จะชุ่มฉ่ำ หรือร้อนแรงว่า ช่วงนี้ฝนตกลงมา นอกจากลดฝุ่น PM2.5 ยังลดสถานการณ์ความร้อนแรงทางการเมืองลงมาด้วย และสภาปิดสมัยประชุม จึงเป็นช่วงเวลาการทำงานของฝ่ายบริหาร ที่ทำงานอย่างมีคุณภาพ และเกิดประโยชน์ต่อประชาชน

ส่วนกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี นั้น สมศักดิ์ ย้ำว่า เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ส่วนจะปรับหรือไม่ปรับนั้น ตนเองไม่ทราบ แต่ได้ยินจากสื่อมวลชน และวันนี้ ดูแล้วว่า กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีรุนแรงขึ้น ดังนั้นจะต้องจับตาดูอะไรเป็นอะไร และใครจะไปอยู่ที่ไหนอย่างไร แต่ส่วนตัวยังไม่ทราบ

เมื่อถามว่า จากประสบการณ์ส่วนตัวในช่วงนี้ ควรปรับคณะรัฐมนตรีแล้วหรือไม่นั้น สมศักดิ์ มองว่า หากเป็นพรรคไทยรักไทย จะมีการปรับบ่อย เพื่อแก้ปัญหาในขณะนั้น และอาจจะเป็นไปตามที่มีข่าวออกมา รวมถึงอีกกระแสหนึ่ง มีการโหมมาในลักษณะนี้ จะมีข้อเท็จจริงหรือไม่ก็ต้องติดตามดู

นอกจากนี้ สมศักดิ์ เทพสุทิน ยังกล่าวถึงกรณี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีความเคลื่อนไหวบ่อยขึ้น จะทำให้การเมืองกลับไปเป็นเหมือนเก่าหรือไม่ว่า ทักษิณ เป็นคนทำงาน และการหยุดไป 17 ปี ในสมองท่าน คงมีแต่เรื่องการพัฒนา สิ่งที่ท่านเห็นรอบโลก เห็นอะไรเยอะ และอยากให้ประเทศไทย เหมือนต่างประเทศที่มีอะไรดีๆ และเชื่อว่า จะเป็นการเสริมกัน

เมื่อถามว่า ประชาชนบางส่วน ยังกังวลระบอบทักษิณจะกลับมานั้น สมศักดิ์ ระบุว่า คงไม่ใช่ และระบอบทักษิณเป็นอย่างไร ตนก็ยังไม่เข้าใจ แต่ในเรื่องของการเมือง และสิ่งที่จะเดินไปถึงความแตกแยก คงไม่ใช่แน่นอน และเป็นเรื่องตรงกันข้าม แต่การกลับมาของนายทักษิณ จะทำให้แนวของความสมานฉันท์เป็นประเด็นสำคัญ

เมื่อถามว่า การกลับมาของ ทักษิณ จะทำให้สมานฉันท์ได้อย่างไร สมศักดิ์ ตอบว่า เมื่อก่อนไม่ได้สมานฉันท์ เป็นขั้ว เป็นอะไรต่างๆ แต่หลังจากนั้น ตนคิดว่า แนวทางของการเมืองจะออกแนวสามัคคี และเดินหน้า

เมื่อถามว่า ทิ้งพรรคก้าวไกลอยู่พรรคเดียวใช่หรือไม่ สมศักดิ์ บอกว่า คงเป็นขั้วการเมือง ที่ต้องแก้ปัญหาของพรรคตัวเองมากกว่า เราคงไม่นำมาฉุกคิดเป็นเรื่องของขั้วการเมือง เพื่อให้เสียเวลาแก่การพัฒนาประเทศ