ไม่พบผลการค้นหา
เกรซ-นรินทร เปิดใจก่อนขึ้นเวทีประกวดมิสเวิลด์ 2019 รอบตัดสิน ลุ้นคว้ามงกุฎที่ 3 ส่งท้ายปี ผู้สันทัดด้านนางงามประเมินสถานการณ์มีโอกาสครึ่งๆ มอง 'มิสอินเดีย' เต็งหนึ่ง

ปี 2562 วงการนางงามไทยคึกคัก กับการสร้างประวัติศาสตร์บนเวทีประกวดนางงามระดับโลก ของ 'บิ๊นท์ - สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์' สาวไทยคนแรกที่คว้ามงกุฎมิสอินเตอร์มาครองได้ จากการประกวดรอบตัดสินมิสอินเตอร์ 2019 ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน และ 'แอน-แอนโทเนีย โพซิ้ว' ชนะเลิศการประกวดมิสซูปร้าเนชั่นแนล 2019 ที่ประเทศโปแลนด์ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม จารึกชื่อเป็นคนแรกจากประเทศไทย ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดบนเวทีมิสซูปร้าเนชั่นแนล ส่วน 'ฟ้าใส-ปวีณสุดา ดรูอิ้น' ตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2019 ที่ แอตแลนตาสหรัฐอเมริกา แม้ไม่ได้มงแต่ได้ใจ ทำผลงานดีที่สุดทะลุถึง 5 สุดท้าย

ในขณะที่ 'เกรซ-นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ' มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 ตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมประกวด มิสเวิลด์ 2019 (Miss World 2019) เป็นนางงามมีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์เปิดประตูสู่ความสำเร็จบนเวทีประชันความงามชั้นนำของโลกให้กับสายสะพายไทยแลนด์เป็นคนแรก และคว้ามงกุฎให้กับประเทศไทยส่งท้ายปีนี้

เกรซ-นรินทร เปิดใจกับทีมข่าวระหว่างซ้อมเตรียมความพร้อมขึ้นเวทีชิงมงกุฎ มิสเวิลด์ 2019 ในวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2562 ที่ Excel Arena London ประเทศอังกฤษ เข้าสู่โค้งสุดท้ายของการประกวด ผู้เข้าประกวดหลายคนมีความเครียดกับการฝึกซ้อมแต่ก็พยายามเก็บพลังไว้ไปปล่อยบนเวทีรอบตัดสิน ส่วนตัวมีความพร้อม และมีความมั่นใจมาก ที่ผ่านมาตั้งใจทำทุกวันให้เต็มที่ เหมือนที่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน และแฟนนางงามชาวไทย

ระหว่างเก็บตัวได้รับมิตรภาพที่ดีจากเพื่อนผู้เข้าประกวดกว่า 125 ประเทศ แต่ที่สนิทเป็นพิเศษมี มิสเมียนมาร์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้อง มิสเจแปน (ณี่ปุ่น) มิสเซ้าท์แอฟริกา (แอฟริกาใต้) มิสแคนาดา มิสเนปาล มิสฟิลิปปินส์ มิสสวีเดน และนางงามอังกฤษ ประเทศเจ้าภาพ ที่มีน้ำใจคอยให้การช่วยเหลือกันตลอด ทั้งช่วยกันแต่งตัว และช่วยกันเตือนให้มาทำกิจกรรมตรงตามเวลาที่กองประกวดนัดหมาย จนมีความรู้สึกว่าการประกวดไม่ใช่การแข่งขัน แต่มาเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ ทุกคนช่วยกันผลักดันให้วันประกวดรอบตัดสินทำผลงานออกมาดีที่สุด

“มีโอกาสได้ประชาสัมพันธ์ประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องอาหาร บางคนบอกเคยมาแล้ว ชอบกินผัดไท ต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวาน ก็บอกเพื่อนไปว่าหลังจากการประกวดเสร็จแล้วมาเที่ยวประเทศไทยติดต่อมาเลยนะ เดี๋ยวพาไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวแบบอันซีน ระหว่างเก็บตัวโปรโมทประเทศไทยไปมากจริงๆ และทุกคนก็อยากที่จะมาเที่ยวประเทศไทย” เกรซ กล่าว

เกรซ นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ มิสไทยแลนด์เวิลด์.jpg

เมื่อถามว่ามีโพลสำรวจความคิดเห็นจากสื่อ แฟนนางงาม และเว็บไซต์พนัน ยกให้เป็นหนึ่งในตัวเต็งมีโอกาสได้เข้ารอบลึก รวมถึงได้ครองตำแหน่งมิสเวิลด์ 2019 สาวไทยวัย 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บอกว่า ไม่รู้สึกกดดัน แต่รู้สึกดีใจที่มีคนมองเห็นศักยภาพและความพยายาม นำมาเป็นแรงผลักดันเพื่อทำให้ทุกวันมีความสุขดีกว่า

“เกรซมองว่าเรื่องแบบนี้ไม่เฉพาะนางงาม ทุกคนน่าจะเจออะไรแบบนี้มาค่อนข้างเยอะไม่ว่าจะเป็นทั้งการแข่งขัน หรือการดำเนินชีวิต มองว่าถ้าทุกคนเอามาเป็นพลังทำให้ไปต่อได้ก็เป็นเรื่องที่ดี ในการประกวดครั้งนี้นางงามทุกคนมีสิทธิเข้ารอบลึก และได้ครองมงกุฎได้หมดทุกคน ด้วยความที่มีผู้เข้าประกวดกว่า 125 ประเทศ ต่างคนต่างวัฒนธรรม ทุกคนมีความสวยในแบบของตนเอง และมีความตั้งใจที่จะมาประกวด ดังนั้นเกรซมองว่าทุกคนเหมาะสมที่จะได้รับตำแหน่ง และพร้อมแสดงความดีใจกับคนที่ได้ประสบความสำเร็จสูงสุด อาจจะเป็นตัวเราเอง หรือเพื่อนๆ คนอื่น เราอยู่ด้วยกันมาพักใหญ่ ทุกคนมีความเฟรนด์ลี่”

เกรซ-นรินทร กล่าวเพิ่มเติมว่า กับการทำหน้าที่บนเวทีรอบตัดสิน คิดว่าการเป็นของตัวเองคือสิ่งที่ดีที่สุด และนำเสนอเอกลักษณ์ความเป็นไทยให้มากที่สุด ในฐานะที่เป็นตัวแทนสาวงามจากประเทศไทย

“สิ่งหนึ่งเลยที่เกรซทำตั้งแต่วันแรกที่มาถึงที่นี่ (ลอนดอน อังกฤษ) จนมาถึงวันนี้ คือ นำเสนอเอกลักษณ์ความเป็นไทย อาทิ สอนเพื่อนพูดภาษาไทย มีบางคนพูดกับเกรซเองเลยนะว่า สวัสดีค่ะ ขอบคุณค่ะ และสอนการไหว้จนเพื่อนหลายคนติดการไหว้ เรารู้สึกว่าการไหว้เป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจน เวลาใครพูดอะไร หรือให้ของอะไรก็ยกมือไหว้ เพื่อนก็ยกมือไหว้ตาม เกรซเชื่อว่าเอกลักษณ์ความเป็นไทยจะดึงดูดความสนใจได้ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะมันคือความเป็นตัวเอง การใช้เสน่ห์ในความเป็นไทยจะเป็นสิ่งที่ทำให้มีความแตกต่างจากคนอื่น”

หากสมหวังกับการประกวด สามารถสร้างประวัติศาสตร์เป็นสาวงามจากประเทศไทยคนแรกได้ครองตำแหน่งมิสเวิลด์ สิ่งแรกที่อยากทำ คือ ขอบคุณคนไทยทุกคนที่ให้การสนับสนุน เพราะเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การที่เธอเดินมาถึงจุดนี้ได้ เพราะกำลังใจจากคนไทย และสานต่อโครงการจิตอาสาเพื่อสังคม Let me hear you ให้คำปรึกษาในด้านจิตวิทยา โดยเฉพาะโรคซึมเซา เนื่องจากกำลังเป็นปัญหาในสังคมไทย เห็นได้ชัดเจนจากสถิติการฆ่าตัวตายตัว ไปจนถึงเรื่องยาเสพติด ปัญหาการหย่าร้าง และโรคทางกายต่างๆ

“การต่อยอดโครงการจิตอาสาคือเป้าหมายหลักที่มาประกวดครั้งนี้ เรื่องคว้ามงกุฎเป็นความรับผิดชอบในหน้าที่ สิ่งที่ทำให้สานต่อได้คือได้เป็นตัวแทนในการป่าวประกาศโครงการของเราให้เดินหน้าต่อไปได้ ฝากถึงกองเชียร์เป็นกำลังใจให้เกรซในการประกวดรอบตัดสินตามเวลาประทศไทยตรงกับวันที่ 14 ธันวาคม ตั้งแต่ 3 ทุ่มเป็นต้นไปค่ะ”

ด้านผู้สันทัดเรื่องนางงาม ประเมินสถานการณ์ของมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 ก่อนขึ้นเวทีชิงมงกุฎมิสเวิลด์ 2019 มีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่จะประสบความสำเร็จสูงสุด คว้ามงกุฎแรกมิสเวิลด์ และมงกุฎที่ 3 จากเวทีประชันความงามระดับโลกให้กับประเทศไทยในปีนี้

ภูมิรัตน์ เลิศวิศิษฏ์ชัย.jpg

ภูมิรัตน์ เลิศวิศิษฏ์ชัย หรือ แม่ลักษณ์ ผู้ถือลิขสิทธิ์มิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ และประธานที่ปรึกษากองประกวดมิสซูปร้าเนชั่นแนลไทยแลนด์ บอกว่า ส่วนตัวรู้สึกชอบน้องเกรซ เพราะเป็นคนที่มีทัศนคติดี น่ารัก ฉลาดพูด มีความเป็นผู้หญิงไทยสูง เห็นแล้วรู้ทันทีว่าเป็นผู้หญิงไทย โอกาสมงบอกเป็นเปอร์เซ็นต์ไม่ได้ เพราะการประกวดมีหลายปัจจัยที่สำคัญ แต่ในฐานะที่เป็นคนไทยเชียร์นางงามไทยเต็มร้อย มิสเวิลด์เป็นเวทีใหญ่ของโลกที่นางงามไทยยังไม่เคยได้ครองตำแหน่งมงกุฎ ปีนี้นางงามไทยไปถึงมงในเวทีที่ไม่เคยได้มาก่อนอย่าง มิสอินเตอร์เนชั่นแนล และมิสซูปร้าเนชั่นแนล ไม่แน่น้องเกรซอาจทำให้คนไทยภูมิใจได้อีกคน

ประเสิรฐ เจิมจุติธรรม.jpg

ประเสริฐ เจิมจุติธรรม หรือ หนุ่ม ประเสริฐ กูรูนางงาม ให้ความเห็นว่า จากการติดตามการประกวดมิสเวิลด์ 2019 โอกาสที่น้องเกรซจะชนะการประกวด 50/50 เปอร์เซ็นต์ เพราะขั้นตอนการประกวดมิสเวิลด์ต่างจากเวทีอื่น โดยเฉพาะการประกวดแบ่งเป็นโซนทวีป และปีนี้ทวีปเอเชียจัดว่าเป็นสายแข็ง มีความโดดเด่นเกือบทุกประเทศนอกจากนั้นยังเป็นการประกวดระบบ Olympic Beauty Queen ซึ่งมีการแข่งขัน Fast Track หลายรายการ และกลุ่มผู้ผ่านเข้ารอบ Fast Track จึงจะมีโอกาสเข้ารอบ ซึ่งน้องเกรซยังไม่ผ่านเข้ารอบใดๆ เลย

แต่น้องเกรซมีจุดเด่น คือ ใบหน้าสวยหวาน ซึ่งมิสเวิลด์มักจะชอบคนสวยชัด และหวานแบบนี้ รวมทั้งทำได้ดีในรอบ Head to Head เป็นผู้หญิงที่ยิ่งพูดยิ่งสวยสื่อความหมายออกมาจากใจ ที่สำคัญยังได้ นิโคลีน-พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 ที่ทะลุถึงรองอันดับ 1 การประกวดมิสเวิลด์ 2018 เทรนการพูดการตอบคำถามให้ ทำให้น้องเกรซมีเสน่ห์ทุกครั้งที่จับไมค์

ในขณะที่ผู้เข้าประกวดที่น่าจับตามอง มีมิสอินเดีย มีความสวย และฉลาดพูด เข้า Fast Track ทั้ง Head to Head และ Miss World Top Model มีโอกาสสูงมาก ส่วนนางงามอังกฤษ ประเทศเจ้าภาพถึงจะไม่เข้า Fast Track แต่น่าจะผ่านเข้ารอบลึกด้วยโควต้าทวีปได้ และมิสจาไมก้า เข้ารอบ Fast Track รางวัล Miss World Top Talent ด้วยความสามารถพิเศษด้านการร้องเพลง เธอร้องได้ไพเราะมากจริงๆ ซึ่งความสามารถพิเศษร้องเพลงได้ดีแบบนี้ถือว่าเป็นทางของมิสเวิลด์

โชคชัย ชมพืช.jpg

โชคชัย ชมพืช หนึ่งในผู้บุกเบิกเว็บบอร์ดนางงามชื่อดัง บอกว่า หลังจากที่เขาเห็นการจัดอันดับเว็บไซต์ของกูรูนางงามชาวเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นที่ยอมรับระดับสากล ให้น้องเกรซเป็นรองอันดับ 1 มีความคิดว่า มีโอกาสสูงที่มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 จะผ่านเข้ารอบลึก แต่จะชนะเลิศการประกวดหรือไม่อันนี้ต้องลุ้น ในขณะที่มิสอินเดียถูกยกให้เป็นตัวเต็งแบบที่เรียกว่านอนมาก หลังจากผ่านเข้ารอบ Fast Track เกือบทุกรางวัล

กุลชาติ สุวรรณขจร.jpg

ด้าน กุลชาติ สุวรรณขจร หรือ แก้ว จีนี่ ตัวแทนแฟนนางงาม แสดงความคิดเห็นว่า จากที่ติดตามน้องเกรซมาตั้งแต่ประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 มองว่าน้องอาจไม่ได้สวยสะดุดตาเมื่อมองแวบแรก แต่องค์รวมดูดี ยิ่งได้เห็นคลิปตอนแข่งขัน Head to Head ทำให้รู้สึกว่ายิ่งพูดยิ่งสวยขึ้นเยอะ มีความเป็นตัวของตัวเอง ดูเป็นธรรมชาติ ถ้าได้เข้ารอบลึกๆ ได้จับไมค์ตอบคำถาม สาวงามจากประเทศไทยก็มีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จสูงสุดในการประกวดมิสเวิลด์หนนี้ เรียกว่ามีลุ้นกันอีกมงส่งท้ายปี หลังจากได้เห็นชุดราตรีสีน้ำเงินในรอบไฟนอลของน้องเกรซจากห้องเสื้อ Unkuniya ที่มีแรงบันดาลใจมากจากชุดไทยให้ดูสากล บวกกับความสวยหวานแบบไทยแท้ เชื่อว่าเมื่ออยู่บนเวทีเธอจะดูโดดเด่นไม่น้อยหน้าใคร

 เกรซ นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ มิสไทยแลนด์เวิลด์.jpg

สรุปการแข่งขันรางวัล Fast Track เข้ารอบแบบอัตโนมัติ มิสเวิลด์ 2019

รางวัลพิเศษผ่านเข้ารอบ 40 คนแบบอัตโนมัติ ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม มี 22 คน ดังต่อไปนี้

รางวัล Head to Head การพูดในที่สาธารณะ 10 คนได้แก่ มิสมอลโดวา, มิสเนปาล, มิสเวเนซุเอลา, มิสไนเจีเรีย, มิสเม็กซิโก, มิสฟิลิปปินส์, มิสกายอานา, มิสอินเดีย, มิสตรินิแดตและโตเบโก และมิสปารากวัย

รางวัล Miss World Top Talent 1 คน ได้แก่ มิสจาไมกา

รางวัล Miss World Top Sport 1 คน ได้แก่ มิสบริติช เวอร์จิ้น ไอส์แลนด์ (หมู่เกาะบริติชเวิอร์จิ้น)

รางวัล Beauty with A Purpose 10 คน ได้แก่ มิสมองโกเลีย, มิสมาเลเซีย, มิสตูนิเซีย, มิสเวเนซุเอลา, มิสอินเดีย, มิสฝรั่งเศส, มิสไนจีเรีย, มิสเนปาล, มิสเวียดนาม และมิสอินโดนีเซีย

รางวัล Miss World Top Model ยังไม่ประกาศผล แต่ผ่านเข้ารอบ 10 คนดังนี้ มิสบราซิล, มิสเช็ก รีพับลิค, มิสฝรั่งเศส, มิสฮ่องกง, มิสอินเดีย, มิสคาซัคสถาน, มิสไนจีเรีย, มิสตรินิแดดและโทเบโก, มิสยูกันดา และมิสเวียดนาม

ส่วนรางวัล Miss World People’s Choice Award และรางวัล Miss World Multimedia จะประกาศผลในรอบตัดสิน

ทั้งนี้การประกวดมิสเวิลด์ 2019 รอบตัดสินจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม ที่ศูนย์นิทรรศการเอ็กเซล กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เริ่มประกวดประมาณ 21.00 น. ตามเวลาไทย ถ่ายทอดเฟซบุ๊กไลฟ์ FB Live ของเพจ Miss World - Thailand