ไม่พบผลการค้นหา
"ส่งสัญญาณผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ว่าเขาจะไม่ได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการ" ประโยคทิ้งท้ายของ 'ปิยบุตร แสงกนกกุล' อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ หลังศาล รธน. มีมติยุบพรรคอนาคตใหม่ และตัดสิทธิการเมืองกรรมการบริหารพรรค 10 ปี ปมเงินกู้ 191 ล้านบาท พร้อมกันนี้ 'ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ' อดีตหัวหน้าพรรค ยังประกาศแนวทางพรรค 3 ทาง

ทั้งการย้ายทัพไปยังพรรคใหม่ที่นำโดย 'ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ พร้อมกับการตั้ง 'คณะอนาคตใหม่' นำโดย 'ปิยบุตร-ธนาธร' เพื่อเคลื่อนไหวรณรงค์ในประเด็นก้าวหน้านอกสภา และการตั้ง 'มูลนิธิ' เกี่ยวกับด้านการศึกษาและสิ่งแวดล้อม

ซึ่งสิ่งที่ 'ปิยบุตร' ย้ำเสมอคือภาพยนตร์เรื่องนี้จะจบไม่เหมือนเดิม ซึ่งระยะเวลาเกือบ 1 ปี มีพรรคถูกยุบ 2 พรรค ทั้งไทยรักษาชาติและอนาคตใหม่ โดยปรากฏการณ์นี้ถูกมองว่าเป็น 'ความเหมือนที่แตกต่าง'

หลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ได้เพียง 2 วัน ได้มีการออกมาเปิดเผยโดย 'สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล' ว่า 'ผู้นำพรรคอนาคตใหม่' เคยพูดคุยกับ 'พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์' ผบ.ทบ. ช่วงต้นเดือน ต.ค. 2562 ซึ่งที่ผ่านมากระแสข่าวนี้ถูกปิดเงียบ ทั้งฝั่งพรรคอนาคตใหม่ และ พล.อ.อภิรัชต์ จน 'สมศักดิ์' ออกมาพูดผ่านสาธารณะ

หลังจากเป็นข่าว 'ปิยบุตร' ยอมรับว่ามีการพบปะพูดคุยกันจริง แต่เป็นการพูดคุยในเรื่องการตั้งพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมาเพื่อทำการเมืองทิศทางใด ยืนยันไม่มีการพูดคุยเรื่องดีลทางการเมืองใดๆ และมีการพูดคุยเรื่องการปฏิรูปกองทัพ

ทว่าผลของการพูดคุยเป็นอย่างไรนั้น ก็ไม่มีบทสรุปใดๆ แต่กลับเกิดปรากฏการณ์การจัด 2 เวทีทอล์ก ระหว่าง พล.อ.อภิรัชต์ ที่จัดเวที 'แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง' เมื่อ 11 ต.ค. 2562 ทำให้ 'ปิยบุตร' ประกาศจัดเวทีแผ่นดินของเราในมุมมองประชาธิปไตย 12ต.ค.2562 ถือเป็น 'มวยถูกคู่' ในการตอบโต้ประเด็นต่างๆ ระหว่างกัน


ปิยบุตร อนาคตใหม่ ยุบพรรค #เราไปต่อ

หากย้อนกลับไป 'สัญญาณชน' ระหว่าง พล.อ.อภิรัชต์ กับ อดีตพรรคอนาคตใหม่ มีมาตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย. 2562 ที่เป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า 'ซ้ายจัดดัดจริต' นั่นเอง ถือเป็นครั้งแรกที่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวพาดพิงไปยังพรรคอนาคตใหม่ และเกิดขึ้นหลังเลือกตั้ง 24 มี.ค. 2562 ได้ไม่นาน

"ผมขอร้อง นิสิต นักศึกษา ครู อาจารย์ ที่ไปเรียน ต่างประเทศ บางท่าน ได้ทุน ราชการ ทุนจากในวัง ท่านเรียนระบอบประชาธิปไตย ที่ใดไม่ว่า แต่ระบอบประชาธิปไตยในโลกนี้ เขามีวัฒนธรรม ของตัวเองแตกต่างกัน เมื่อเราไปเรียนก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับประเทศอื่นอื่น ย้อนถาม คสช. เป็นเผด็จการจริงหรือ ไม่อยากจะยกตัวอย่างประเทศอื่นที่เขาเผด็จการจริงๆ นี่คือวัฒนธรรมระบอบประชาธิปไตยแบบไทยๆ ขอให้รักกันเถิด นำความรู้ระบอบประชาธิปไตยของเขามา ต้องดูด้วย ไม่ใช่พยายามเปลี่ยนแปลง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อย่าเอาซ้ายจัดมา แล้วดัดจริต นี่คือแผ่นดิน ที่บรรพบุรุษ เสียเลือดเนื้อ" พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2562

จนมาถึงการจัดทอล์กแผ่นดินของเราฯ ของ พล.อ.อภิรัชต์ ที่ท้าชนแบบ 'เปิดหน้า' ผ่านภาพ 'เงาปริศนา' ที่ก็รู้ว่าใคร ถ่ายภาพคู่กับ 'โจชัว หว่อง' ที่ฮ่องกง รวมทั้งวาทกรรมที่ พล.อ.อภิรัชต์ ซัดกลับฝ่ายค้านโดยเฉพาะ 'ฮ่องเต้ซินโดรม' รวมทั้งเป็นครั้งแรกๆ ที่ พล.อ.อภิรัชต์ พูดถึงตัวเลขปี 2475 เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงการปกครองของ 'คณะราษฎร' รวมทั้งการ 'ปลุกผีคอมมิวนิสต์' ขึ้นมาด้วย

"ผมขอถามท่านว่าปัญหาเรื่องความมั่นคง ท่านจะให้ใครแก้ นักวิชาการ หรืออาจารย์บางคนที่คบคิดกับพวกคอมมิวนิสต์เดิม เป็น Mastermind เป็นคลังสมอง ร่วมกับนักเรียน นอกซ้ายจัดดัดจริต ที่ไปเรียนจากประเทศที่เคยล่าอาณานิคม อบรมสั่งสอนแบบไร้จรรยาบรรณ ชอบอ้างเลข 2475 เป็นตัวชี้นำ ชอบอ้างว่าตนเป็นนักประชาธิปไตย แต่มีวาทกรรมจาบจ้วง" พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว

"หรือจะเชื่อกลุ่มนักการเมืองที่เหมือนผึ้งแตกรัง ลูกพี่ใหญ่หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ หรือสุดท้าย ท่านจะเชื่อนักธุรกิจเจ้าของโรงงานที่เกิดมาคาบช้อนเงินช้อนทอง ชีวิตไม่เคยลำบาก เหมือนพวกฮ่องเต้ซินโดรม เคยชุมนุมร่วมกับคนเผาบ้านเผาเมือง สมคบคิดกับชาวต่างชาติ ชักศึกเข้าบ้าน เจาะพฤติกรรมล้างสมองคนรุ่นใหม่เพื่อเป็นฐานให้กับตนเข้าสู่การเมือง มีพฤติกรรมล้มล้างชาติ สถาบัน" พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว


อภิรัชต์ คงสมพงษ์

"สามกลุ่มที่ผมพูดมานั้น ไม่ผิดหรอกครับ ถ้าท่านจะมาเป็นผู้นำประเทศ ท่านเป็นได้ แล้วไม่ใช่ประเทศไทยไม่เคยมีสามคนกลุ่มประเภทนี้มาเป็นผู้นำประเทศ แต่ขอเถอะครับว่า ถ้าเขาเหล่านั้นไม่ส่อพฤติกรรมล้มล้างสถาบัน ไม่ส่อพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงการปกครอง ไม่ส่อพฤติกรรมหาประโยชน์ส่วนตนมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศ เชิญเถอะครับ เชิญมาเป็น นำประเทศชาติของเราไปสู่ความเจริญ" พล.อ.อภิรัชต์ ทิ้งท้าย

หากร้อยเรียงสิ่งที่ พล.อ.อภิรัชต์ ได้พูดเอาไว้ก็สามารถ 'ต่อจิ๊กซอว์' เห็นภาพการเมืองช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาได้ไม่น้อย อย่าลืมว่าคำพูดของ พล.อ.อภิรัชต์ บนเวทีทอล์กนั้นมีการเตรียมการมาและมีน้ำหนักยิ่งนัก เพราะ พล.อ.อภิรัชต์เอง ก็มีสถานะสำคัญอยู่ด้วย

อีกปรากฏการณ์พรรคอนาคตใหม่แสดงออกคือการ 'งดออกเสียง' ในการพิจารณาร่าง พ.ร.ก.โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหมไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ.2562

โดย ‘ปิยบุตร’ ให้เหตุผลว่า ไม่เห็นด้วยกับการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 ในการตราพระราชกำหนด เสมือนเป็น มาตรา 44 ไม่ได้ ทางพรรคจึงไม่สามารถยอมให้ร่างพ.ร.ก.ฉบับนี้ผ่านไป เพราะจะกลายเป็นบรรทัดฐานให้เป็นการใช้อำนาจมาตรา 44 จำแลงขึ้นมา และเป็นโรคไม่แยแสรัฐธรรมนูญ จึงจำเป็นต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง

อีกทั้งมีการจัดงาน ‘อยู่ไม่เป็น’ ของอดีตพรรคอนาคตใหม่ขึ้นตามมาด้วย ซึ่งคำว่า ‘อยู่ไม่เป็น’ นั้น เป็นคำล้อกับคำว่า ‘อยู่เป็น’ ที่เป็นวัฒนธรรมการอยู่ในสังคมไทย เช่น “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้” เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม อีกเรื่องที่ต้องน่าสนใจ คือ แนวคิดการจัดการ ‘ขุมทรัพย์ ทบ.’ ในการจัดการสวัสดิการเชิงพาณิชย์ของ พล.อ.อภิรัชต์ มีมานานแล้ว และเตรียมดำเนินการช่วงเดือนก.พ. 2563 ตามกำหนดการ แต่ได้เกิดเหตุการณ์ที่ จ.นครราชสีมา ขึ้นมาก่อน จึงเป็นตัวเร่งให้ ทบ. ต้องรีบดำเนินการ เพื่อฟื้นศรัทธาจากสังคม รวมทั้งเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส แน่นอนว่าสิ่งที่ พล.อ.อภิรัชต์ กำลังทำอยู่นั้นต้องเจอกับ ‘แรงเสียดทาน’ ต่างๆ แต่ด้วยสถานการณ์และสถานะของ พล.อ.อภิรัชต์ จึงไม่ต้องเกรงใจใคร

ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งใน ‘เรื่องการปฏิรูปกองทัพ’ ด้วย โดยเป็นนโยบายของ พล.อ.อภิรัชต์ ที่คิดมานานแล้ว และก่อนที่ ‘ธนาธร’ จะเสนอในที่ประชุม กมธ.วิสามัญพิจารณางบปี 2563 โดย ‘ธนาธร’ ได้ถาม ผบ.เหล่าทัพ ที่นำโดย ‘บิ๊กกบ’พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทหารสูงสุด ที่รัฐสภา ในเรื่อง ‘เงินนอกงบประมาณ’ ของกองทัพ

ก่อนจะตามมาด้วย ‘มหากาพย์วิบากกรรม’ ของพรรคอนาคตใหม่ ด้วยคดีต่างๆ ตั้งคดีล้มล้างการปกครอง หรือ อิลลูมินาติ ตามมาด้วยคดีเงินกู้พรรคนั่นเอง ทั้งหมดนี้หากต่อจิ๊กซอว์ก็จะเห็นภาพเหตุการณ์ต่างๆชัดขึ้น


เผด็จการ เกษตรศาสตร์ แฟลชม็อบ คนรุ่นใหม่ ddd007.jpg

ท่ามกลางกระแส ‘แฟลชม็อบ ที่เกิดขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัยและโรงเรียนต่างๆ โดยชูประเด็นให้พ้นเรื่อง ‘ยุบพรรคอนาคตใหม่’ โดยเน้นเรื่องการ ‘ต่อสู้กับเผด็จการ’ และรักษาไว้ซึ่งประชาธิปไตย เพื่อป้องกันการถูกโยงว่าทำเพื่อพรรคอนาคตใหม่

ซึ่งหน่วยข่าวฝ่ายความมั่นคงก็ประเมินแล้วว่าจุดติด เพราะจำนวนนักศึกษาที่มาชุมนุมนั้นไม่น้อย และกระจายไปหลายมหาวิทยาลัย ซึ่งทางหน่วยข่าวมองว่ามีแกนนำ คือ สหภาพ นักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) และอาจมีกลุ่มนักศึกษาที่เคยเคลื่อนไหวช่วงก่อนการเลือกตั้งปี 2562 ร่วมด้วย

‘ภาพยนตร์’ เรื่องนี้ จะจบเหมือนเดิมหรือไม่ และเป็นไปตามบท ‘ผู้กำกับ’ หรือไม่ ? ต้องติดตาม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปริศนา ลายพราง
164Article
0Video
39Blog