ไม่พบผลการค้นหา
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้แก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงหอยทะเล สัตว์น้ำในกระชัง และสัตว์น้ำอื่นๆ ที่ทำการเพาะเลี้ยงในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน มีผลตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 ธ.ค. 2565 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19

บัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากนโยบายของเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มอบหมายให้กรมประมงหาแนวทางการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินที่มีการเลี้ยงหอยทะเลและการเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชังในพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงเดือนมี.ค. 2563 เป็นต้นมา

โดยเมื่อช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำโดยอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการประชุมหารือร่วมกับกรมประมง และผู้แทนเกษตรกรกลุ่มต่างๆ อาทิ ประธานกลุ่มเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงหอยแครงบางตะบูน และผู้แทนผู้เพาะเลี้ยงหอยทะเล ฯลฯ เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวฯ ซึ่งผลที่ประชุมมีมติเสนอให้ออกกฎกระทรวงฯ เพื่อยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินทุกชนิด และมอบหมายให้กรมประมง เร่งดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด เพื่อประกาศใช้ต่อไป

ขณะนี้ คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกกฎกระทรวง 'ยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่จับสัตว์น้ำซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ. 2563' ลงวันที่ 30 ก.ย. 2563 โดยเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมทั้งการเพาะเลี้ยงหอยทะเล การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชัง และสัตว์น้ำอื่นๆ ที่ทำการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำฯ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำนวนกว่า 30,000 ราย คิดเป็นเงินกว่า 60 ล้านบาท ในพื้นที่ 71 จังหวัดที่มีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินดังกล่าว โดยให้สิทธิ์ในแต่ละพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต 1 รอบใบอนุญาต เริ่มตั้งแต่วันที่กฎกระทรวงใช้บังคับ ไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2565 ทั้งนี้ หากจังหวัดใดมีการชำระค่าธรรมเนียมไปแล้วก่อนหน้านี้ เกษตรกรจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมในการขออนุญาตฯ ในรอบใบอนุญาตครั้งถัดไป

รองอธิบดีกรมประมง ระบุว่า ถือเป็นอีกหนึ่งนโยบายการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำฯ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และอธิบดีกรมประมง พยายามผลักดันมาตรการดังกล่าวจนเป็นผลสำเร็จในวันนี้ และกรมประมงได้เร่งรัดให้ประมงจังหวัดแลประมงอำเภอในพื้นที่สร้างความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ถึงสิทธิตามกฎหมายดังกล่าวให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินได้รับทราบโดยทั่วกัน