ไม่พบผลการค้นหา
ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ประกาศปิดศูนย์การค้าบางส่วน ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ สถานประกอบการ สกัดไวรัสโควิดแพร่ระบาด เริ่ม 23 มี.ค.- 13 เม.ย.นี้ เผยผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 สะสมยังมี 12 ราย เร่งติดตามผู้สัมผัสผู้ป่วย 3 รายล่าสุด

ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่ (ศ.ข.ฉ.ก.) แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์วรเชษฐ เต๋ชะรัก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพิงค์ และนายแพทย์ จตุชัย มณีรัตน์ สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าว

นายเจริญฤทธิ์ เผยว่าวันนี้คณะกรรมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ได้ประชุมหารือและมติวันนี้ ( 22 มีนาคม 2563) ให้สถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด แออัด เบียดเสียดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ถือปฎิบัติ โดยยกเลิกคำสั่งฉบับที่ 1/2563 เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรงติดเชื้อไวรัสโคโนน่า (COVID-19) และออกประกาศฉบับที่ 2 ให้สถานที่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ถือปฏิบัติการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2563 เวลา 18 .00น ถึงวันที่ 13 เมษายน 2563 เวลา 24 .00 น

โดยสถานที่ที่ต้องปิดตามประกาศดังกล่าว คือ  สถานศึกษาทุกระดับ สถานบันกวดวิชา , ศูนย์แสดงสินค้า และศูนย์ประชุมจัดแสดงนิทรรศการ  , พื้นที่บางส่วนของห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ หรือห้างร้านที่มีร้านค้าย่อยในอาคารหรือบริเวณเดียวกัน เว้นแต่ซูเปอร์มาเก็ตหรือสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ร้านขายยา สำนักงานและธนาคาร ส่วนร้านอาหารให้ซื้อนำกลับไปบริโภคที่อื่น  

ตลาดให้เปิดเฉพาะการขายอาหารสด อาหารแห้ง อาหารปรุงสำเร็จ ให้ซื้อนำกลับไปบริโภคที่อื่น , ร้านอาหารสัตว์ ร้านขายยา และสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ปิดตลาดถนนคนเดิน  

ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ให้เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น และร้านอาหารเครื่องดื่มในโรงแรมนั้นให้บริการเฉพาะผู้ที่พักอาศัยในโรงแรม , ปิดพื้นที่นั่งหรือยืนรับประทานอาหารเครื่องดื่มในร้านสะดวกซื้อ หรือร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม

ปิดสถานบริการและสถานประกอบการที่คล้ายสถานประกอบการ รวมทั้งสถานที่มุ่งเน้นการขาย จ่าย แจก แลกเปลี่ยนให้ สุราและเครื่องดื่ม แอลกฮอล์เพื่อดื่มกินในสถานที่และบริเวณนั้น อาทิ ร้านเหล้าตอง , ปิดสถานประกอบการเพื่อสุขภาพตามพระราชบัญญัติประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ.2559 ได้แก่ร้านสปา ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ร้านนวดเพื่อ เสริมความงาม  

ปิดสถานที่ประกอบกิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร ,ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมหรือแต่งทรงผม ร้านตัดแต่งทำเล็บ ร้านสักผิวหนัง หรือเจาะส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย คลินิกเสริมความงาม และสถานเสริมความงาม สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ลานสเก็ต หรือ โลเลอร์เบลด ปิดให้บริการเครื่องเล่นในอาคาร เครื่องเล่นภายนอกอาคาร เครื่องเล่นชั่วคราว สวนสนุก รวมถึงโซนอุปกรณ์เครื่องเล่นสำหรับเด็กในห้างสรรพสินค้า ปิดร้านเกมส์ ร้านอินเทอร์เน็ต คาราโอเกะ โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ โรงละคร ศูนย์พระเครื่อง  พระบูชา และสนามพระเครื่อง พระบูชา สนามกอล์ฟ หรือสนามซ้อมกอล์ฟ สนามยิงปืน บ่อตกปลา บ่อตกกุ้ง ปิดสนามกีฬาประเภทที่มีการสัมผัสร่างกายหรือใช้อุปกรณ์กีฬาร่วมกัน ปิดสนามมวย ค่ายมวย โรงเรียนสอน ฝึกซ้อมศิลปะป้องกันตัว ปิดสนามชนไก่ สนามประลองไก่ สนามม้า หรือสนามหรือพื้นที่การจัดให้สัตว์ต่อสู้  หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท

220363ผู้ว่าฯแถลงชัดดาวน์เชียงใหม่_Moment.jpg

ขณะที่นายแพทย์วรเชษฐ์ กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดเชียงใหม่มีผู้ป่วยสะสมเท่าเดิมคือ 12 ราย โดย 5 รายล่าสุดยืนยันผลติดเชื้อจากแลปทั้ง 2 แห่งแล้ว มีผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 11 ราย และหายกลับบ้านไปแล้ว 1 ราย คือนักท่องเที่ยวชาวจีน ส่วนกรณีการเฝ้าระวังผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สะสมโรค มี 439 ราย กลับบ้านไปแล้ว 355 ราย ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล 84 ราย (รวมผู้ป่วยที่ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยัน 11 ราย)  

สำหรับกรณีผู้ป่วยใหม่ที่ค้นพบ 3 รายเมื่อวานนี้  ประกอบด้วย รายแรก ผู้ป่วยเพศหญิง สัญชาติไทย อายุ 57 ปี เป็นเจ้าของกิจการ ได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศอังกฤษ พร้อมลูกสาวและหลานชาย เดินทางกลับถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 12 มีนาคม และเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ -เชียงใหม่ ด้วยสายการบินไทยสไมล์ ไฟล์ WE 176 ถึงเวลา 23.40 น. ทั้งหมดได้กักตัวที่บ้าน ส่วนผู้สัมผัสได้รับการตรวจยืนยันเรียบร้อยไม่พบเชื้อ

ผู้ป่วยรายที่สอง เป็นชายสัญชาติสวิสเซฮร์แลนด์ อายุ 66 ปี มีบ้านพักที่จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางกลับมาเมื่อวันที่ 18 มีนาคม จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ - เชียงใหม่ ด้วยสายการบินไทยสไมล์ ไฟล์ WE 164 ถึงเวลา 16.55 น. โดยผู้ป่วยรายนี้ไม่มีผู้สัมผัส เพราะรู้ตัวจึงให้ภรรยาขับรถมาจอดที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่และขับรถกลับบ้านพักเอง ก่อนจะมีอาการป่วยในวันที่ 19 มีนาคมและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลทันที

ส่วนผู้ป่วยรายที่ 3 เป็นหญิงไทย อายุ 35 ปี อาชีพนวดแผนไทย ทำงานที่ร้านปิ่นแก้ว ตั้งอยู่ด้านหลังห้างท้อป สาขาโชตนา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เริ่มมีอาการป่วยและเข้ารักษาตัวเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ผู้สัมผัสมีคนในครอบครัว 4 คน และเพื่อนร่วมงานอีก 10 คน ผู้ป่วยรายนี้อยู่ระหว่างติดตามไทม์ไลน์ว่าได้รับเชื้อมาจากไหน ซึ่งก็มีผู้ที่ต้องติดตามเพื่อสอบสวนโรคหลายกลุ่ม

นายแพทย์ วรเชษฐ กล่าวอีกว่า ผู้ที่สัมผัสผู้ป่วยทั้ง 3 ราย ได้โปรดดูแลและกักตัวเอง หากเริ่มมีอาการไข้ ไอ สามารถติดต่อโรงพยาบาลใกล้บ้านทันที เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาและสอบสวนโรค


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :