ไม่พบผลการค้นหา
พร้อมสับ เป็นสิทธิฝ่ายค้านวิจารณ์ แต่อย่าทำสับสน ไม่ร้องรีบค้านงบปี 67 รัฐบาลเพิ่งทำงานได้ 2 เดือนกว่า ก่อนหน้านี้บอกรอได้ 10 เดือน

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุ งบปี’67 กระทรวงมหาดไทยได้มากสุด ยอดพุ่งแซงกระทรวงศึกษาธิการ ว่า การตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์การจัดทำงบประมาณถือเป็นสิทธิ แต่ไม่ควรสร้างความสับสนหรือทำให้เกิดความเข้าใจผิด สารัตถะสำคัญของการจัดทำงบประมาณ ไม่ได้อยู่ที่ว่างบประมาณกระทรวงใด แซงกระทรวงใด จะได้รับจัดสรรงบประมาณมากหรือน้อย หากมีกระบวนการจัดทำออกแบบงบประมาณที่เข้มแข็ง มีการกระจายเม็ดเงินที่ให้น้ำหนักตามภารกิจเป้าหมายประเทศแต่ละด้านได้อย่างเหมาะสม ทำให้เกิดความเชื่อมั่นได้ว่างบประมาณเหล่านั้นจะถูกใช้ด้วยความคุ้มค่าอย่างแท้จริง ประเทศชาติและประชาชนก็จะได้รับประโยชน์ การจัดทำงบประมาณปี67 มีการจัดทำเพื่อแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างหลายส่วนด้วยกัน ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยมีการจัดความสัมพันธ์ท้องถิ่น-ส่วนกลางใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาการถ่ายโอนอำนาจ ที่ผ่านมามีการถ่ายโอนภารกิจ ถ่ายโอนบุคลากร แต่ไม่ยอมถ่ายโอนงบประมาณ รวมถึงการถ่ายโอนรพ.สต. หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ที่เป็นการกระจายอำนาจด้านสาธารณสุขครั้งใหญ่ ก็ต้องพิจารณาในส่วนของงบประมาณให้สอดรับกัน



“ทราบว่าคุณศิริกัญญาเป็นฝ่ายค้าน แต่ต้องไม่รีบร้อนลนลานค้านไปหมดทุกเรื่อง ตอนจะตั้งรัฐบาลบอกว่า 10 เดือนรอได้ รัฐบาลเพิ่งทำงาน 2 เดือนกว่า จะรีบไปไหน ลองไปศึกษารายละเอียดงบประมาณ 67 ให้ครบถ้วนแล้วค่อยวิจารณ์ก็ไม่สาย” นายอนุสรณ์ กล่าว


ก่อนหน้านี้เมื่อ 1 ธ.ค.2566 ศิริกัญญา ตันสกุล จากพรรคก้าวไกลได้ทวีตข้อความบน x หรือทวิตเตอร์แสดงความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี2567 ตอนหนึ่งว่า กระทรวงที่ได้รับงบอันดับ 1 คือ กระทรวงมหาดไทย 3.53 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.5% ปีนี้ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แซงกระทรวงศึกษาฯ เรียบร้อยแล้ว งบที่เพิ่มนอกจากจะมาจากเงินเดือนกำนันผู้ใหญ่บ้าน และเงินเดือน อบต.ที่เพิ่มสมัยประยุทธ์แล้ว ยังมาจากงบท้องถิ่นที่เพิ่มขึ้นตามประมาณการรายได้ แต่ยังคงไปไม่ถึงเป้าหมาย 35% ของรายได้ ปี 67 นี้รัฐบาลจัดสรรรายได้ให้ท้องถิ่น 29% ของรายได้รัฐสุทธิเท่านั้นต่ำกว่าปีที่แล้ว ที่สำคัญยังคงไม่มีการชดเชยภาษีที่ดินให้กับ อปท.