เดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นหน้าร้อนของญี่ปุ่น ชายชาวอาทิตย์อุทัยเริ่มหันมาใช้ร่มกันแดดกันมากขึ้น แม้โดยปกติแล้วร่มกันแดดดูจะเป็นของใช้สำหรับผู้หญิงที่ห่วงเรื่องการดูแลผิว
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอากาศที่ร้อนขึ้นกระทั่งโยชิอากิ ฮาราดะ รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อมของญี่ปุ่น ต้องออกมาเตือนล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม พร้อมกระตุ้นให้ผู้ชายใช้ร่มกันแดดกันในฤดูร้อนของญี่ปุ่น หรือช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม โดยได้มีการติดโปสเตอร์รณรงค์ให้ข้อมูลประสิทธิภาพของร่มกันแดดในการป้องกันฮีตสโตรก หรือโรคลมแดด และตั้งจุดขายร่มกันแดดตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม
ทางกระทรวงชี้ว่าการใช้ร่มกันแดดจะช่วยลดอุณหภูมิลงได้ถึง 3 องศา และลดเหงื่อลงราว 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับการสวมหมวกเฉยๆ
หน่วยดับเพลิงและการจัดการภัยพิบัติ หรือกรมดับเพลิงญี่ปุ่น (Fire and Disaster Management Agency) เผยว่าในระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกันยายนปีที่แล้ว มีผู้ถูกส่งเข้าโรงพยาบาลเพราะฮีตโสตรก ประมาณ 95,000 ราย มากกว่าปี 2017 ถึง 42,000 ราย ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น ยังเผยอีกว่ามีผู้เสียชีวิตจากฮีตโสตรกในปี 2018 ราว 1,500 คน
ก่อนหน้านี้ในปี 2018 ทางการจังหวัดไซตามะได้ออกมารณรงค์ให้ผู้���ายใช้ร่มกันแดดแล้ว หลังอุณหภูมิในเมืองคุมากายะ จังหวัดไซตามะ สูงถึง 41.1 องศาเซลเซียส แต่ยังไม่ได้รับผลตอบรับเท่าที่ควร เพราะยังถูกมองว่าการใช้ร่มกันแดดดูเป็นผู้หญิงเกินไป
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวจิจิเพรสรายงานว่าร่มกันแดดสำหรับผู้ชายได้รับความนิยมมากขึ้นในญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการซื้อเป็นของขวัญวันพ่อในเดือนมิถุนายน และในห้างสรรพสินค้ามัตสึซากายะ กรุงโตเกียว ก็มียอดขายร่มกันแดดสำหรับผู้ชายในช่วงเดือนมีนาคมถึงมิถุนายนของปีนี้ สูงขึ้นเกือบสองเท่าจากปีก่อน โดยยอดขายร่มกันแดดในฐานะของขวัญวันพ่อนั้นสูงขึ้นประมาณ 5 เท่า