ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - 'แจ็ก หม่า' ยังไม่เกษียณตัวเองจากอาลีบาบาเร็ว ๆ นี้ - Short Clip
World Trend - ทรัมป์เพิ่มงบ 'นาซา' มุ่งภารกิจดวงจันทร์-ดาวอังคาร - Short Clip
World Trend - 'หม่า' เผย สงครามการค้า กระทบการสร้างงานในสหรัฐฯ - Short Clip
World Trend - สงครามการค้ากระทบอุตสาหกรรมการบินโลก - Short Clip
World Trend - 'เนื้อสัตว์ทดแทน' อุตสาหกรรมใหม่ที่อาจโตอีก 20 เท่า - Short Clip
World Trend - ​สหรัฐฯ ปรับเฟซบุ๊กแสนล้าน กรณีข้อมูลรั่ว - Short Clip
World Trend - ทำความรู้จัก 'แดเนียล จาง' ผู้สืบทอดอาณาจักรอาลีบาบา - Short Clip
World Trend - แอปเปิลสั่งลดการผลิตไอโฟนรุ่นใหม่ลง 20 % - Short Clip
World Trend - UN เผย ไทยติดอันดับ 10 แหล่งท่องเที่ยวฮิต 2017 - Short Clip
World Trend - UN แนะ 25 นโยบายลดมลพิษอากาศในเอเชีย - Short Clip
World Trend - ​​สตูดิโอใหญ่เลือก 'นิวเม็กซิโก' ทำเลเมืองหนังใหม่ - Short Clip
World Trend - 'แอมะซอน' ขึ้นแท่นบริษัทมูลค่ามากที่สุดในโลก - Short Clip
World Trend - รถยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่ยาครอบจักรวาล - Short Clip
World Trend - ชิลีเล็งใช้รถพลังงานไฟฟ้าเพิ่ม 10 เท่าในปี 2022 - Short Clip
World Trend - คาดปีนี้ 'อีสปอร์ต' โกยรายได้เฉียด 3 หมื่นล้าน - Short Clip
World Trend - 'ทรัมป์' สั่งหน่วยงานรัฐเร่งวิจัยเอไอ - Short Clip
World Trend - 'เทย์เลอร์ สวิฟต์' ปลุกกระแสเลือกตั้งให้คนรุ่นใหม่ - Short Clip
World Trend - 'Green Fashion' แฟชั่นยุคใหม่ ไม่ทำร้ายโลก - Short Clip
World Trend - แคลิฟอร์เนียเตรียมใช้พลังงานสะอาด 100% ในปี 2045 - Short Clip
World Trend - ​อัลฟาเบตลงทุนเพิ่มหมื่นล้านกับ 'เมืองใหม่' - Short Clip
World Trend - แจ็ก หม่า ชี้ สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ อาจยืดเยื้อ 20 ปี - Short Clip
Sep 19, 2018 16:31

แจ็ก หม่า ชี้ สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ อาจยืดเยื้อนาน 20 ปี หลังผู้นำสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่ ซึ่งครอบคลุมสินค้าจีนรวมมูลค่ากว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมขู่ว่าถ้าจีนจะตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ ก็จะดำเนินการขึ้นภาษีสินค้าจีนรอบที่สามต่อไป

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพิ่มขีดความรุนแรงของสงครามการค้าที่ดำเนินอย่างต่อเนื่องระหว่างจีนและสหรัฐฯ ด้วยการประกาศให้สหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนระลอกใหม่ โดยสินค้าจีนกว่า 5,000 รายการ รวมมูลค่ากว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ จะถูกขึ้นภาษีนำเข้า 10 เปอร์เซ็นต์ ในวันที่ 24 กันยายนนี้ และจะเพิ่มเป็น 25 เปอร์เซ็นต์ ภายในช่วงต้นปีหน้า นับว่าเป็นการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ 

ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนไปแล้วถึง 50,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.62 ล้านล้านบาท โดยทรัมป์ได้บอกถึงสาเหตุการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนครั้งใหม่ว่า ยังคงเป็นการตอบโต้จีนที่ทำการค้ากับสหรัฐฯ อย่างไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา การออกข้อบังคับว่านักลงทุนสหรัฐฯ จะต้องร่วมลงทุนกับบริษัทจีน หรือการใช้มาตรการหนุนสินค้าของตัวเอง

สินค้าจีนที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นภาษีครั้งนี้ คือเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย กระเป๋า และข้าวสาร แต่สินค้าเทคโนโลยี อย่างสมาร์ตวอตช์ของแอปเปิล หรือสายรัดข้อมือเพื่อการออกกำลังกายของฟิตบิท ได้รับการยกเว้นไม่ถูกขึ้นภาษี โดยทรัมป์ขอให้จีนเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้ากับสหรัฐฯ ใหม่ให้มีความยุติธรรมมากขึ้น และหากจีนออกมาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เพิ่ม สหรัฐฯ ก็จะดำเนินการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนต่อในรอบที่ 3 ซึ่งจะครอบคลุมสินค้าจีนมูลค่ารวมกว่า 267,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 8.7 ล้านล้านบาท

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนได้ออกมาประณามการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ว่าเป็นมาตรการที่ยอมรับไม่ได้ โดยระบุว่าพฤติกรรมของสหรัฐฯ กำลังคุกคามจีน คุกคามทั่วโลก และกำลังทำลายตนเอง และรัฐบาลจีนจะตอบโต้การกระทำดังกล่าวด้วยมาตรการที่เหมาะสมและจำเป็น เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติและประชาชนจีน

ด้านนายแจ็ก หม่า ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานบริษัทอาลีบาบา ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจากจีน ออกมาแสดงความเห็นในฐานะนักลงทุนและชาวจีนคนหนึ่ง บนเวทีการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทอาลีบาบาประจำปีนี้ โดยเขาระบุว่าความเคลื่อนไหวของผู้นำสหรัฐฯ ครั้งนี้จะทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงกว่าเดิม และความเลวร้ายทางเศรษฐกิจที่มีผลกระทบในระดับนานาชาตินี้จะยืดเยื้อกินเวลายาวนาน ไม่ใช่เพียง 20 วัน 20 เดือน แต่อาจจะนานถึง 20 ปีเลยก็เป็นได้ 

การคาดการณ์ของนายหม่าชี้ให้เห็นว่า ผลกระทบจากการสั่งขึ้นภาษีของสินค้าจีนที่ส่งเข้าไปยังสหรัฐฯ มูลค่ามหาศาลนี้จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อกรณีนี้เกิดขึ้นบนความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ครองขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลก นั่นหมายความว่า ความตึงเครียดจะดำเนินต่อไปและสร้างปัญหาทางการค้าไม่หยุด แม้ว่านายทรัมป์จะพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในอีก 2 ปีข้างหน้าก็ตาม หรือแม้ว่านายทรัมป์อาจครองตำแหน่งผู้นำประเทศต่อไปอีก 1 สมัย หรือ 4 ปีเต็ม ปัญหาที่เขาสร้างไว้ก็จะยังคงอยู่ไปอีกเป็น 10 ปี

นายหม่ากล่าวเพิ่มเติมอีกด้วยว่า การประกาศการเปลี่ยนผ่านอำนาจของผู้นำอาลีบาบาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจบ้าง แต่ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ นี้ได้สงผลกระทบโดยตรงต่อการเติบโตทางธุรกิจของอาลีบาบา ซึ่งนายหม่าชี้ว่าในระยะสั้นนี้ ภาคธุรกิจของทั้งจีนและสหรัฐฯ จำนวนมากจะประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจและสร้างผลกำไร ในขณะที่ในระยะยาว ภาคธุรกิจของจีนที่มีสหรัฐฯ เป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่ง จะต้องหันไปหาตลาดในต่างประเทศแทน เพราะทนกับสภาพการจัดเก็บภาษีที่สูงขึ้นอย่างมากไม่ไหวอีกต่อไป

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มูลค่าหุ้นของอาลีบาบาปิดตลาดด้วยราคาที่ต่ำลง 3.5 เปอร์เซ็นต์ ต่ำกว่าเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาถึง 25 เปอร์เซ็นต์ โดยในเดือนมิถุนายน 2018 นั้นเป็นเดือนที่มูลค่าหุ้นอาลีบาบาแตะราคาสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งนายหม่าระบุว่า จีนคือผู้ถูกกระทำในสงครามการค้าครั้งนี้ แต่ก็ยังวิจารณ์ไปยังรัฐบาลจีนด้วยว่ากฎหมายหลายอย่างของประเทศจีนก็ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้น ซึ่งก็อยากจะแนะนำผู้นำของประเทศที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ว่า จีนควรจะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ด้วยการใช้กรณีการถูกขึ้นภาษีครั้งนี้ให้เป็นโอกาสที่ประเทศจะเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายไปในทางที่ดีขึ้น

วิธีที่นายหม่าเสนอก็คือ จีนต้องเปิดตลาดให้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อโอกาสทางธุรกิจที่มากขึ้น พร้อมทั้งได้กล่าวให้คำมั่นกับบรรดาผู้ถือหุ้นอีกครั้งว่านายแดเนียล จาง ว่าที่ผู้นำคนใหม่ของอาลีบาบาคือบุคคลที่เหมาะสมที่สุดที่เค้าวางใจที่จะฝากบริษัทไว้ด้วย 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog