รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 11 มกราคม 2563
นักวิเคราะห์ Talking Thailand ไม่แปลกใจหลังรายชื่อ 7 ส.ส.ฝ่ายค้านที่ถูกตั้งให้เป็น “งูเห่า” มีทั้งเศรษฐกิจใหม่ 5 คน ประชาชาติ 1 คน และเจ้าเก่า ก้อย พรพิมล ของเพื่อไทย โหวตหนุนงบฯ ทั้งที่มติฝ่ายค้านให้ “งดออกเสียง” เพื่อคุ้มครองความคิดตัวเอง เพราะอย่างไรต้องมีงบฯ ไม่อย่างนั้น “เศรษฐกิจเจ๊ง”
ในระหว่างที่อภิปรายในมาตรา 52 นายสุทิน คลังแสง ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ยืนยันว่าฝ่ายค้านไม่ได้เตะถ่วง อยากให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพอย่างที่สุด จึงใช้เวลามาถึงวันนี้ และว่ารู้สึกผิดหวังเหมือนในที่วาระรับหลักการ ที่ได้เคยแนะนำให้รัฐบาลปรับแก้ ให้เฉพาะการโยกงบฯ ความมั่นคง มาลงที่งบฯ ด้านเศรษฐกิจให้มากขึ้น แต่ก็ไม่เห็น และไม่อยากให้ผ่าน แต่ทว่าวันนี้ก็มาตกอยู่ในสภาพเหมือนวาระรับหลักการ อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจของไทยหายใจด้วยเส้นเลือดเดียว คือ เม็ดเงินงบประมาณ เพราะเม็ดเงินจากต่างประเทศ ทั้งการส่งออก และท่องเที่ยว ติดลบ 3 ไตรมาส ในประเทศก็การลงทุนหดหาย หากงบฯ ออกไม่ได้ ก็เจ๊งทั้งประเทศ นี่คือภาวะต่องจำยอม “ให้ผ่าน” และหนทางที่จะคุ้มครองความคิดของฝ่ายค้าน ที่ต้องรับผิดชอบประเทศ คือ งดออกเสียง ส่วนงบจะผ่านหรือไม่ อยู่ที่การจัดการเสียงของรัฐบาล ที่เชื่อว่ามีเสียงพออยู่แล้ว แต่ขอให้รัฐบาลนำข้อสังเกตไปใช้ในการบริหารงบ รวมถึงการจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบปี 64 ที่กำลังจะต้องเกิดใน 3- 4 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ที่ประชุมได้อภิปรายและลงมติในวาระที่ 2 จนครบ 55 มาตรา เมื่อเวลา 17.30 น. จากนั้นนายชวน ได้ให้ ส.ส.ลงมติในวาระ 3 โดยไม่มีการอภิปราย คือ ขอความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. งบฯ ปี 63 โดย ส.ส.เข้าร่วมลงคะแนน 450 คน ให้ความเห็นชอบ 253 เสียง , ไม่เห็นชอบ 0 , งดออกเสียง 196 และไม่ลงคะแนน 1 เสียง
ส่วนการลงมติเพื่อขอความเห็นชอบต่อข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ มี ส.ส.ร่วมลงมติ 420 คน โดยมีผู้เห็นด้วยกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการ 410 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง และ งดออกเสียง 9
ต่อมามีรายงานรายชื่อ ส.ส.ฝ่ายค้าน ที่ร่วมลงคะแนนเห็นชอบกับฝ่ายรัฐบาล 7 คน เป็น ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ 5 คน คือ นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล, นายภาสกร เงินเจริญกุล, นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์, นางมารศรี ขจรเรืองโรจน์, นายสุภดิช อากาศฤกษ์ พรรคเพื่อไทย 1 คน คือ น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี และพรรคประชาชาติ 1 คน คือ นายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี ส.ส.เหล่านี้เคยลงมติสวนมติพรรคฝ่ายค้าน ในการลงมติร่วมเป็นองค์ประชุมรพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาผลกระทบคำสั่งจากคำสั่งหัวหน้า คสช.ตามมาตรา 44 ยกเว้น นายนิยมเพียงคนเดียวที่เพิ่งมาลงมติสวนมติฝ่ายค้านในครั้งนี้ ขณะที่นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ไม่ลงคะแนนเสียง
ขณะที่อดีต ส.ส.อนาคตใหม่ 4 คนที่ถูกขับออกจากพรรค คือ นางศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่, นายจารึก ศรีอ่อน, พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี และ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี ที่ย้ายไปอยู่พรรคร่วมรัฐบาล ต่างลงมติไปในทางเดียวกันคือ เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว
